Tag: รีวิวเครื่องสำอาง

ไอเท็ทสำคัญไม่แพ้กับการบำรุงด้วยสกินแคร์ ก็คือครีมกันแดด หากเราไม่ทาครีมกันแดด ผิวก็จะถูกทำร้ายได้อย่างง่ายดาย ทำให้การใช้สกินแคร์ได้ประสิทธิภาพน้อยลง จนอาจทำให้เกิดผลเสียตามมา ภัยเงียบที่แฝงตัวมากับแสงแดดนั้นมีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น ผิวไหม้ คล้ำเสีย ก่อให้เกิดปัญหาฝ้า กระ ความชุ่มชื้นถูกทำลาย ส่งผลให้ผิวอ่อนแอ เกิดสิวขึ้นง่าย ยิ่งผิวมันยิ่งเกิดความันส่วนเกินมากขึ้น รวมถึงการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย

ดังนั้นการทาครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่งหากยังไม่รู้จะใช้กันแดดตัวไหนดี ลองมาดูลิสต์ครีมกันแดดแนะนำกันเลย

• Nivea Sun Protect

ขึ้นแท่นครีมกันแดดยอดฮิตมาโดยตลอด ด้วยคุณภาพที่น่าสนใจมากๆ มีให้เลือก 3 สูตร เริ่มที่สูตรสีเขียว เหมาะสำหรับสภาพผิวมัน เป็นสูตรลดความมันส่วนเกินได้ดี ช่วยลดการอุดตัน ไม่ทำให้รูขุมขนกว้าง จึงช่วยป้องกันสาเหตุของการเกิดสิวได้ ต่อมาสูตรสีชมพู จะช่วยปรับระดับสีผิวให้ขาวอมชมพูขึ้น มาพร้อมสารสกัดที่จะช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำให้กระจ่างใส และยังให้ความชุ่มชื้น ถัดมาเป็นสูตรเหลือง ซึ่งใช้ได้กับทุกสภาพผิว ช่วยให้ความชุ่มชื้น และซึมไว จึงไม่ทำให้ผิวมัน แถมยังช่วยฟื้นฟูผิวให้ขาวใสขึ้น 

• Biore aqua rich watery essence 

เป็นอีกหนึ่งกันแดดชื่นดัง ด้วยความกันแดดตัวนี้มีส่วนประกอบที่เป็นนวัตกรรมจากญี่ปุ่นอย่าง micro defense ก็คืออนุภาคของสารสกัดที่เล็กมาก จึงช่วยบำรุงได้อย่างล้ำลึก บำรุงถึงชั้นคอลลาเจนผิว จึงให้ประสิทธิภาพกันแดดที่สูงมาก ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ป้องกันผิวคล้ำเสีย และปกป้องผิวสูญเสียความชุ่มชื้น อีกทั้งเนื้อสัมผัสยังมีความบางเบา แบบเอสเซ้นส์ จึงซึมไว ไม่เหนอะหนะ และคุมมันตลอดวันได้ดี 

• L’oreal UV perfect aqua essence 

เป็นครีมกันแดดที่มีความบางเบา ไม่เหนอะหนะผิว เนื้อเจลบางๆ ประสิทธิภาพการกันแดดที่สูงมาก ช่วยป้องกันผลเสียต่างๆ ที่เกิดจากรังสียูวี เช่น จุดด่างดำ ฝ้า กระ ปัญหาผิวคล้ำเสีย เป็นต้น อีกทั้งยังมีส่วนของการบำรุง Adenosine เพื่อฟื้นฟูผิวถูกทำร้ายอย่างล้ำลึก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น จึงช่วยทั้งป้องกันแสงแดดและบำรุงไปพร้อมๆ กันเลย 

ปัจจุบันนี้ได้มีครีมกันแดดหลักร้อยถูกผลิตออกมาอย่างมากมาย ซึ่งล้วนแล้แต่ใช้ดี น่าสนใจมากๆ นับว่าทั้ง 3 ไอเท็มนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง สามารถเลือกใช้ได้ตามชอบ ที่สำคัญอย่าลืมทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนเผชิญกับแสงแดดที่ร้อนสุดๆ หรือพยายามเลี่ยงแดดแรงๆ ด้วยก็ได้ 

#รีวิวเครื่องสำอาง #การดูแลผิว #ครีมกันแดดแนะนำ

เชื่อว่าหลายๆคนก็อยากมีผิวพรรณที่สวย สดใส สุขภาพดี และชุ่มชื้น ซึ่งแต่ละคนก็มีไอเทมดูแลผิวที่แตกต่างกัน แต่ในวันนี้เราจะมาแชร์ไอเทมที่ช่วยในเรื่องของผิวขาดน้ำ รูขุมขนกว้าง ผิวหยาบกระด้าง และรอยกระด่างกระดำจากสิว และหนึ่งในไอเทมที่ช่วยเรื่องปัญหาเหล่านี้ก็คือว่านห่างจระเข้ นั่นเองค่ะ และตอนนี้หลายแบรนด์ก็ได้มีการคิดค้นสูตรที่ทำให้สามารถฟื้นฟูและบำรุงผิวไปพร้อมกันได้ด้วย จะมีแบรนด์ไหนใช้แล้วดีน่าไปตำบ้าง ไปดูกันนนน

1.99.9% Active Aloe Vera Moisturizing & Soothing Gel

ใครที่มีปัญหาผิวแพ้ง่ายเราขอแนะนำตัวนี้เลยค่ะเหมาะสำหรับสาวผิวแพ้ง่าย เพราะเป็นว่านหางจระเข้เข้มข้นและบริสุทธิ์ถึง 99.9% ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีน้ำหอม  ไม่มีเมนทอล ไม่มีการบูร เป็นเจลเนื้อใสๆ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ทาลงผิวแล้วซึมซาบดี แต่อาจจะต้องนวดวนสักพัก แต่พอซึมลงไปหมดแล้วผิวก็แห้งสบาย ลื่น ไม่เหนียวเหนอะ

2.99% Aloe Vera & Snail Serum Soothing Gel

เป็นไอเทมฮอตฮิต และมาแรงมากกกก เป็นเจลว่านหางจระเข้เข้มข้น 99% พร้อมสารสกัดจากเมือกหอยทาก ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้านจากแสงแดด ให้กลับมาชุ่มชื่น สุขภาพดี เมือกหอยทางช่วยฟื้นฟูให้ผิวสว่างใส ช่วยลดจุดด่างดำจากสิว เป็นเจลที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ซึมซาบเร็วดี หลังทารู้สึกผิวแห้งสบาย ผิวชุ่มน้ำแต่ไม่เหนอะหนะ ไม่มันวาว นอกจากนี้ยังสามารถใช้ได้ทุกส่วนของร่างกาย ทั้งเส้นผม ผิวหน้า และผิวกาย เหมาะกับทุกสภาพผิว 

3.Aloe Vera 92% Soothing Gel

เป็นเจลว่านหางตัวท็อปเลยก็ว่าได้ เป็นว่านหางจระเข้เข้มข้น 92% ช่วยดูแลปัญหารอยแดง แสบ ไหม้ และเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวที่แห้งกร้านจากแสงแดด เป็นเจลอเนกประสงค์ ที่สามารถทาได้ทุกส่วน ทั้งใบหน้าและผิวกาย เนื้อเจลมีลักษณะใส ไม่มีสี แต่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ซึมซาบดีมาก หลังทารู้สึกสบายผิว ไม่เหนอะหนะ

4.Snail Cream with Aloe Vera 

สำหรับตัวนี้เป็นครีมเจลเมือกหอยทากผสมว่านหางจระเข้ ตัวนี้จะเน้นส่วนผสมหลักไปที่เมือกหอยทางเสียมากกว่า แล้วมีการเติมสารสกัดจากว่านหางจระเข้เพิ่มเข้าไป เพื่อให้ทาง่ายและเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวหน้า  เนื้อครีมเป็นเจลใส ทาแล้วซึมซาบเร็ว ไม่ทิ้งความมันวาว เหมาะกับสาวผิวมันเป็นพิเศษ ช่วยบำรุงผิวหน้าให้สว่างใส ลดความหมองคล้ำ และลดรอยดำจากสิว

5.99.9% Active Aloe Vera Moisturizing & Soothing Gel

เป็นว่านหางจระเข้เข้มข้นและบริสุทธิ์ถึง 99.9% ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีน้ำหอม ไม่มีสีเจือปน ไม่มีเมนทอล ไม่มีการบูร เป็นเนื้อเจลใสๆ ไม่เหนียวเหนอหนะ เหมาะสำหรับสาวผิวแพ้ง่าย ใช้บำรุงผิวหน้า เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิวที่ไวต่อแสงแดด โดนความร้อน หรือผู้ที่ทำเลเซอร์ที่ใบหน้า และผู้มีปัญหาสิว

เครดิตภาพ : mybeat,  Lazada

#ไอเทมว่านหางจระเข้ #รีวิวเครื่องสำอาง #รีวิวของใช้

เชื่อว่าเป็นสิ่งที่สาวๆหลายคนต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษเลยสำหรับการดูแลผิวหน้า เพราะปัจจุบันนี้ทั้งฝุ่น แบคทีเรีย รวมไปถึงการใส่แมสบ่อยๆ อาจทำให้ใบหน้าของเราเกิดความหมองคล้ำ หรือเกิดปัญหาสิวได้ แต่หากเรามีตัวช่วยที่ดีที่ช่วยทำความสะอาดหน้าก็จะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้ ตัวช่วยที่เราอยากแนะนำในวันนี้คือ “คลีนซิ่งเจล” เชื่อว่าใช้แล้วจะช่วยดูแลผิวหน้าของเราได้เป็นอย่างดีเลย 

1.Skinsista Acne Clear Cleansing Gel ราคา 179 บาท

ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ ทำให้ได้คลีนซิ่งเจลสูตรอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ผิวบองบางแพ้ง่ายสามารถใช้ได้ ปราศจากน้ำมันและน้ำหอม ช่วยลดปัญหาสิวเสี้ยนและสิวอุดตันได้เป็นอย่างดี ช่วยดูดซับความมันส่วนเกินบนใบหน้าและสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.ZERMIX Cleansing Gel ราคา 245 บาท

คลีนซิ่งเจลสูตรอ่อนโยนที่อุดมไปด้วยสารที่ช่วยถนอมผิวบอบบางแพ้

ง่ายโดยเฉพาะ ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารเคมีอื่นๆ ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ช่วยเติมความชุ่มชื้นแก่ผิวได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหนัง เพราะตัวคลีนซิ่งจะเป็นเนื้อเจลไม่มีฟอง ช่วยถนอมผิว

สำหรับใครที่มีผิวแห้งกร้าน เป็นขุย ขอแนะนำเลย 

3.De Latex Cream All-In-One Deoxifying Deep Cleansing Water Gel ราคา 299 บาท 

อุดมไปด้วยสารสกัดจากว่านหางจระเข้ สามารถใช้เป็นโฟมล้างหน้าและใช้เป็นคลีนซิ่งลบเครื่องสำอางได้ อ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ปราศจากน้ำหอม พาราเบน แอลกอฮอล์ และน้ำมันต่างๆ ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ลดปัญหาสิวอักเสบและสิวอุดตัน และไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังการใช้งาน

4.Clearasoft Cleansing Gel ราคา 329 บาท

ตัวช่วยจัดการปัญหาสิว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิวอักเสบ สิวอุดตัน หรือรูขุมขนกว้าง อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ อ่อนโยนต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ช่วยจัดการความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี ไม่มีฟอง ช่วยถนอมผิวได้ดี ที่สำคัญคือช่วยให้ผิวหน้ามีความกระจ่างใสมากขึ้นอีกด้วย 

5.The Body Shop Oils Of Life Intensely Revitalising Cleansing Oil-In Gel ราคา 445 บาท 

ผสมผสานพลังจากน้ำมันธรรมชาติ มั่นใจได้เลยว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอน ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่ผ่านการคัดสรรอย่างดี ช่วยบำรุงให้ผิวหน้าเนียนนุ่มชุ่มชื้น กระจ่างใส ตอบโจทย์สำหรับคนที่แต่งหน้าหนักๆ เพราะสามารถช่วยทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เครดิตภาพ :  cosmenet , Shopee 

#ความสวยงาม #รีวิวเครื่องสำอาง #รีวิวคลีนซิ่ง

หากพูดถึงโรคโควิด-19 ก็ต้องยอมรับเลยว่ากลายเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับเราในชีวิตประจำวันแล้วจริงๆ ดังนั้นการใส่แมสก์จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลย แต่สำหรับสาวๆหลายคนเชื่อว่าต้องพบกับปัญหาเดียวกันคือ ลิปสติกเลอะเทอะติดแมสก์ และแน่นอนว่าเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใส่แมสก์ได้ แต่เราสามารถเลือกใช้ลิปสติกได้ วันนี้เราจึงมีลิปสติก สีสวยติดทนนาน ไม่ติดแมสก์มาฝากสาวๆกัน จะมียี่ห้อไหนบ้างไปดูกันเลยค่าาา

1.CATHY DOLL Mini Lip & Cheek Nude Matte Tint ราคา 89 บาท

สำหรับลิปสติกยี่ห้อนี้เป็นลิปออกใหม่ของ CATHY DOLL มาพร้อมเนื้อนู้ดแมทสุดบางเบา เนื้อเนียนนุ่ม ทาแล้วไม่รู้สึกหนักปาก สีชัด เม็ดสีติดทน รู้สึกสบายปาก ไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยบำรุงให้ริมฝีปากนุ่มชุ่มชื้น สามารถใช้ได้ทั้งตาและปาก จะลุคไหนก็เอาอยู่แน่นอน 

2.HOLIKA HOLIKA Peko Water Drop Tint Bomb ราคา 184 บาท

ลิปยอดฮิตของสาวๆต้องยกให้ยี่ห้อนี้เลย ยิ่งสาวๆที่ริมฝีปากแห้งบอกเลยว่าตอบโจทย์มาก มาพร้อมส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปากได้เป็นอย่างดี เป็นลิป Tint เนื้อสีแน่น ติดทนนาน ต่างจากเนื้อลิปอื่นๆ แพ็คเกจน่ารักชวนใช้สุดๆ มีให้เลือกด้วยกันถึง 15 สี รับรองว่าถูกใจทุกสีแน่นอน 

3.MAYBELLINE NEW YORK Superstay Matte Ink ราคา 199 บาท 

ลิปสติกเนื้อแมทที่มาพร้อมความติดทน อยู่ได้นานถึง 16 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว สีชัด ติดทนนาน มีให้เลือกหลากหลายสีหลากหลายโทน ไม่ต่ำกว่า 30 สี ตั้งแต่สีแดง ชมพู ส้มอิฐ ไปจนถึงโทนนู้ด เรียกว่ามีครบจริงๆ ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ริมฝีปากได้ดี ทาแล้วไม่ทำให้ปากแห้งอีกด้วย

ภาพจาก : ThaiPick 

4.PERIPERA Ink Velvet ราคา 329 บาท 

อีกหนึ่งแบรนด์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะเรียกว่าเป็นลิปยอดนิยมสำหรับสาวๆเลย เป็นลิปเนื้อแมทกำมะหยี ที่เนื้อเนียนนุ่ม บางเบาสบายปาก สีติดทนนาน   สีสวย มีสีให้เลือกหลากหลาย ใครชอบความเป็นธรรมชาติแนะนำเลยค่ะ เพราะเวลาเบลนด์ปากสีจะเบลอๆ ทำให้สีอ่อนดูเป็นธรรมชาติ ไม่หนักปากและไม่เหนียวเหนอะหนะ เชื่อว่าทำให้หลายคนติดใจแน่นอน

เครดิตภาพ : Shopee, logo

#รีวิวลิปสติก #ของใช้สาวๆ #รีวิวเครื่องสำอาง

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้แอดจะมารีวิว เครื่องสำอางแบรนด์จีน ซึ่งต้องบอกว่าถูกมากๆ แต่คุณภาพเกินคาด ไม่ไก่กานะคะ หลังจากที่ได้ลองใช้ส่วนตัวแอดรู้สึกประทับใจนะคะ เหมาะสำหรับคนงบน้อย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับสาวกถูกและดีอย่างเรา ซึ่งแบรนด์นี้ก็มีชื่อว่าแบรนด์pinkflash นั่นเองค่ะ 

มาเริ่มกันที่ตัวแรก ที่แอดรู้สึกหวีดและประทับใจมากๆ นั่นก็คือ อายไลน์เนอร์นั่นเองค่ะ เราจะมาเริ่มกันที่แพ็คเกจก่อนนะคะ ส่วนตัวคิดว่าเขาทำออกมาดีเลยค่ะ สีชมพูน่ารัก จับถนัดมือมากๆ ในส่วนของฝาปิดก็ปิดได้แน่นสนิท ไม่หลุดค่ะ  ในส่วนของหัวเมจิกก็ไม่บางและไม่หนาเกินไป กรีดได้ง่ายค่ะ คอนโทรลความหนาบางของเส้นได้ดี ที่แอบปลื้มอีกอย่างคือหมึกเขาเข้มมากๆ แทบจะไม่ต้องลงน้ำหนักมือเลยค่ะ แอดใช้มาสักพักแล้วหมึกยังคงติดเข้มอยู่ ไม่แห้ง ใช้ได้นานพอสมควรเลยค่ะ ติดทนกันน้ำได้ดีมาก คุณภาพคือดีเกินราคาจริงๆค่ะ ราคาน่ารักมากๆ ประมาณ30บาทค่ะ ลองไปหาตำกันดูน้า

มากันที่ชิ้นต่อไปค่ะ มีอายไลน์เนอร์ก็ต้องตามด้วยมาสคาร่า เพื่อความเป๊ะปังของดวงตา ซึ่งอายไลน์เนอร์ก็ว่าดีแล้ว มาสคาร่าก็ไม่แพ้กันค่ะ แพคเกจมาในสีชมพู ซึ่งจริงๆเขามีหลายแบบหลายสูตรอยู่นะคะ แต่แอดเลือกมาเป็นสีชมพู เพราะมันดูน่ารักมากๆค่ะ ขนาดกำลังดี จับถนัดมือ ในส่วนของตัวแปรงจะกลางๆค่ะ ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป แต่สำหรับแอดคิดว่าสูตรนี้เหมาะสำหรับปัดแบบเบาๆ เน้นขนตาเรียงสวย ไม่ได้ดูหนาหรือยาวเวอร์จนเกินไปค่ะ แห้งเร็วพอสมควรเลย  ส่วนเรื่องกันน้ำคืออึ้งมาก เพราะน้องกันน้ำได้ดีมากค่ะ (แอบล้างยากนิดนึง ควรใช้คลีนซิ่งเช็ดก่อน) เหมาะสำหรับปัดไปเล่นน้ำแบบเนียนๆไม่หลุดแน่นอน ราคาเบาๆน่ารักๆ แค่หลักสิบ แต่คุณภาพคือจึ้ง ต้องลองค่ะ

ชิ้นสุดท้ายสำหรับวันนี้ ต้องพูดถึงก็คือบรัชออนจิ๋วอันนี้นี่เองค่ะ เปิดกล่องมาคือตกใจมาก เพราะน้องอันเล็กตะมุตะมิมาก แอดคิดว่าเพราะสำหรับพกพาไปข้างนอกมากๆค่ะ เอาไว้เติมระหว่างวันหรือพกไปเที่ยว แบบต้องการประหยัดพื้นที่ แต่ถึงจะจิ๋ว แต่คุณภาพก็แจ๋วนะคะ เพราะสีน้องคือน่ารักมาก นัวๆใสๆมีให้เลือกมากมายหลายสีเลยทีเดียว แต่ด้วยความที่น้องค่อนข้างเล็ก อาจจะแอบขัดใจนิดๆ ก็สมราคาน้องนะคะถูกและดีค่ะ ราคาแค่หลักสิบ 

ทั้ง3ชิ้นสามารถหาซื้อได้ที่shopeeเลยค่ะ พิมพ์ชื่อแบรนด์ก็สามารถเข้าไปเลือกซื้อกันได้เลย

เครดิตภาพ : shopee.com

ผิวหน้าและผิวกายคือสิ่งที่ทุกคนอยากบำรุงให้ดีเพื่อมีผิวสุขภาพดี แต่บางอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามใจซะหมดเพราะบางคนใช้ผลิตภัณฑ์บางตัวแล้วมีอาการแพ้ สร้างความกังวลให้กับตัวเองขึ้นไปอีก ถ้าใครมีปัญหาผิวและกลัวแพ้ เราจะขอบอกว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและผิวกายที่จะมาแนะนำกันวันนี้มีความอ่อนโยนและเป็นธรรมชาติสุด ๆ ใช้ได้แม้ผิวแพ้ง่าย ผลิตภัณฑ์นั้นคือ สมูทโตะ อโล-อี สเนล ไบรท์ เจล

สมูทโตะ อโล-อี สเนล ไบรท์ เจล ที่สุดของเจลบำรุงผิว

สมูทโตะ อโล-อี สเนล ไบรท์ เจลเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและผิวกายให้เนียนนุ่มด้วย 10 เคล็ดลับจากสมูทโตะ อโล-อี สเนล ไบรท์ เจลเพื่อผิวสวยใส ได้แก่

1. พอกหน้าหลังทำทรีทเม้นท์เลเซอร์

2. ทาบำรุงผิวกายสำหรับผิวแพ้ง่าย

3. พอกหน้าก่อนนอน

4. ทาผิวหลังออกแดด

5. ทารอยแผลที่เกิดจากสิว

6. ทาบำรุงมือและเล็บเพื่อให้มือและเล็บสุขภาพดี

7. แปะสำลีบำรุงถุงใต้ตา ผิวใต้ตาคล้ำเพราะนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ

8. ใช้ทารอบแผลเป็นทั้งรอยแผลเป็นเรียบแลละรอยแผลเป็นนูน

9. ทาก่อนแต่งหน้าเพื่อให้เครื่องสำอางติดทนนาน

10. ทาข้อศอก ส้นเท้า และหัวเขาให้ไม่กระด้างและดำคล้ำ

คุณสมบัติทั้ง 10 ข้อที่ช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำเลิศเพราะสมูทโตะ อโล-อี สเนล ไบรท์ เจล มีส่วนผสมของเจลว่านหางจระเข้มข้นถึง 95.5% และยังมีส่วนผสมของวิตามินอีและสารสกัดเมือกหอยทากจากธรรมชาติ เนื้อเจลอ่อนนุ่มบางเบา ซึมซาบเร็ว ปราศจากส่วนผสมจากแอลกอฮอล์ และผลิตภัณฑ์สมูทโตะ อโล-อี สเนล ไบรท์ เจล ยังเหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย เพราะเจลมีความอ่อนโยนจากธรรมชาติ 

ส่วนผสมทั้งหมดของสมูทโตะ อโล-อี สเนล ไบรท์ เจลที่ช่วยบำรุงฟื้นฟู้ผิวมีดังนี้

1. ว่านหางจระเข้ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวหลังสัมผัสสารเคมี เลเซอร์ ทรีทเม้นท์ ผิวไหม้จากแสงแดดและมลภาวะ

2. วิตามินอี ช่วยให้รอยแผลเป็น รอยสิว และจุดด่างดำดูจางลง

3. เมือกหอยทาก ทำให้ผิวแข็งแรง รูขุมขนกระชับ ลดการเกิดสิวผด สิวอุดตัน และทำให้หน้าเรียบเนียน

4. ไฮยาลูรอนิค แอซิด ช่วยฟื้นบำรุงผิวแห้งกร้าน เป็นขรุย ผิวขาดน้ำ และให้ความรู้สึกเย็นสบายต่อผิว

ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาทำให้ผลิตภัณฑ์สมูทโตะ อโล-อี สเนล ไบรท์ เจลได้รับความนิยมจากผู้ใช้หลากหลายและเป็นที่น่าพึงพอใจ ราคาไม่แพง หาซื้อได้ตามร้านค้าและ7-11

#ของใช้สำหรับผิว #รีวิวของจากเซเว่น #รีวิวเครื่องสำอาง

ถ้าหากพูดถึงความสวยความงาม สำหรับสาว ๆ แล้วมันเป็นของคู่กัน ต้องบอกว่าเป็นปัจจัยหลักในการใช้ชีวิตประจำวันของสาว ๆ เลยก็ว่าได้ ถ้าหน้าไม่เป๊ะไม่ปังไม่กล้าออกจากบ้าน การเลือกใช้เครื่องสำอาง ก็สำคัญจะต้องแมตต์กับสีผิวถึงจะเกิดจะปัง โดยเฉพาะการเลือกแป้งแต่งหน้าจะต้องเลือกใช้ให้ดีถ้าไม่ดีหน้าอาจจะวอกหน้าลอยก็ได้ ถึงแม้ตอนเลือกจะลองแล้วลองอีก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้สีที่ตรงกับสภาพผิวอยู่ดี การเลือกแป้งแต่งหน้าให้เมาะกับสภาพผิว ก็ต้องเลือกแป้งที่ให้ตรงกับสีผิวจะดีที่สุด เพื่อช่วยให้หน้าสวยตรงใจ แถมสวยเป๊ะปังไม่อายใครอีกด้วย เรามาดูวิธีการเลือกแป้งกันดีกว่าว่ามีวิธีการเลือกอย่างไร

เทคนิคการเลือกแป้งให้เหมาะกับสภาพผิว

ในปัจจุบันมีแป้งแต่หน้าให้เลือกมากมาย ซึ่งแต่ละตัวก็มีคุณสมบัติของตัวแป้งที่แตกต่างกันออกไป โดยเมื่อก่อนเราจะรู้จักแป้งแต่งหน้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือแป้งพัฟ ซึ่งแป้งพัฟเป็นแป้งเนื้อแข็ง เป็นการนำเอาแป้งฝุ่นเนื้อเนียนละเอียดมาอัดแข็งลงในตลับ ซึ่งจะง่ายต่อการพกพา แต่ในปัจจุบันไม่ได้มีเพียงแค่แป้งพัฟเท่านั้น เพื่อให้การแต่งหน้าดูเป็นธรรมชาติเรียบเนียนเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยควบคุมความมันได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แต่นอกจากแป้งพัฟดังเดิมแล้วเรายังมีแป้งแต่งหน้าอีกหลายประเภทมาแนะนำ ไม่ว่าจะเป็น

1.แป้งฝุ่น

แป้งฝุ่น (Loose Powder) เป็นแป้งที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมัน เวลาทาจะให้ความรู้สึกเรียบเนียน แต่ควรใช้คู่กับครีมรองพื้นหรือบีบีครีม ที่สามารถควบคุมความมันได้ จะทำให้แป้งติดหน้าได้ทนนานยิ่งขึ้น แป้งฝุ่นเป็นแป้งสารพัดประโยชน์ เพราะด้วยความละเอียดของเนื้อแป้ง จะนำมาปัดแบบเดี่ยว ๆ เพื่อดูดซับความมันส่วนเกินให้ผิวเนียนเป็นธรรมชาติ ดูสวยฟุ้งเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น แป้งฝุ่นมีความโปร่งแสงใช้ได้กลับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะต้องการควบคุมความมัน หรือต้องการให้ผิวดูชุ่มชื้นก็ได้เช่นกัน

2.แป้งอัดแข็ง

แป้งอัดแข็ง หรือที่นิยมเรียกกันว่า “แป้งพัฟ” (Pressed Powder) เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหน้าเรียบเนียนอยู่แล้ว หรือไม่มีจุดบกพร่องบนใบหน้า เพราะแป้งชนิดอัดแข็งจะปกปิดได้ไม่ดีนัก และเนื้อแป้งยังติดไม่ทนนานอีกด้วย แป้งอัดแข็งเป็นแป้งฝุ่นอัดแข็งนั้นเอง จากแป้งฝุ่นเนื้อเนียนละเอียด นำมาอัดลงตลับให้พกพาได้อย่างสะดวก เหมาะกับคนที่ผิวหน้าไม่ต้องการปกปิดมากนัก สามารถนำมาเติมระหว่างวันหรือซับความมันบนผิวได้ เนื้อแป้งเบาบางเหมือนแป้งฝุ่น ถึงแม้จะเติมบ่อย ๆ หน้าก็ยังไม่หนาไม่ลอยแน่นอน แต่ถ้าใครเป็นคนมีผิวที่แห้งหรือเป็นคนผิวผสมที่ทั้งแห้งและลอก แนะนำให้เลือกใช้แป้งผสมรองพื้นจะดีกว่า เพราะจะเกาะติดผิวหน้าได้ดีกว่า

3.แป้งผสมรองพื้น

แป้งผสมรองพื้น (Two Way Powder) เป็นแป้งที่มีส่วนผสมของครีมรองพื้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาที่ผิวหน้า แป้งชนิดนี้จะสามารถปกปิดริ้วรอยต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นรอยแดง รอยดำจากสิว ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนยิ่งขึ้น เป็นการนำแป้งและรองพื้นมาผสมกัน เหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการมีผิวเรียบเนียนเป็นพิเศษ ปกปิดได้เป็นอย่างดีเหมือนทารองพื้น แต่เนื้อแป้งจะหนักผิวมากยิ่งขึ้น สำหรับคนที่มีปัญหาผิวที่ต้องการปกปิดแบบเรียบเนียน 

วิธีเลือกแป้งแต่งหน้าให้เหมาะกับสภาพผิว นั้นเป็นสิ่งสำคัญต่อใบหน้าและสีผิวของเรามาก 

และการ เลือกใช้เครื่องสำอาง ก็เช่นกันหากเราเลือกสีแป้งผิดชีวิตก็อาจจะเปลี่ยนไปเลยก็ว่าได้

#รีวิวเครื่องสำอาง #การดูแลตัวเอง #เลือกแป้งแต่งหน้า

เชื่อว่าการแต่งหน้ากลายเป็นกิจวัตรประจำวันของสาวๆกันไปแล้ว เพราะวันไหนที่ไม่ได้แต่งหน้าก็แทบไม่อยากจะพบเจอใครเลย แต่หลายคนก็มักจะพบปัญหาอายไลเนอร์ไม่สามารถให้ความติดทนนานได้ตลอดทั้งวัน จนทำให้ขาดความมั่นใจกันไปเลย ซึ่งวันนี้เรามีอายไลเนอร์ที่จะช่วยแก้ปัญหาง่ายๆมาฝากค่ะ ราคาถูก กันน้ำ และติดทนตลอดทั้งวันแน่นอน มียี่ห้อไหนบ้างไปดูกันเลย

1.Browit By Nongchat ราคา 149 บาทสำหรับแบรนด์นี้ถือว่าทำได้ดีไม่แพ้แบรนด์อื่นๆเลยค่ะ มาในรูปแบบอายไลเนอร์หัวปากกา มี 2 หัวด้วยกัน ด้านหนึ่งหัวค่อนข้างใหญ่ และอีกด้านหัวจะเป็นอายไลเนอร์แบบหมุน เนื้อนิ่ม เขียนง่าย ติดทนนานตลอดทั้งวัน 

2.Line Tattoo High Impact Liner Black ราคา 179 บาท

อายไลเนอร์จากแบรนด์ดังอย่าง Maybelline หมดปัญหาเรื่องใต้ตาดำแน่นอน มาในรูปแบบหัวปากกาด้านเดียว เนื้ออายไลเนอร์สีดำเข้ม กันน้ำ กันเหงื่อ กันความมันได้เป็นอย่างดี กรีดง่าย ติดทนนาน เส้นคมชัด สามารถเติมระหว่างวันได้โดยที่ไม่ทำให้เลอะเป็นคราบ หายห่วงเรื่องใต้ตาดำไปเลยค่ะ เป็นอีกแบรนด์ที่แนะนำค่ะ 

3.Super Slim Auto Long Eyeliner Extreme Edition ราคา 175 บาทอายไลเนอร์ตอบโจทย์มือใหม่ค่ะ เขียนง่ายสุดๆ มาในรูปแบบหัวเรียวเล็ก บางเพียง 1.5 มิลลิเมตร เท่านั้น กันน้ำ กันเหงื่อได้เป็นอย่างดี เนื้อนุ่มเขียนลื่น เส้นคมชัด สาวหน้ามันก็รอดค่ะ สามารถใช้ได้หมดเลย 

4.Cosluxe Wanderlust Eyeliner ราคา 259 บาท

อายไลเนอร์ถนอมดวงตา เหมาะสำหรับสาวๆที่ใต้ตาคล้ำ และเหมาะกับมือใหม่มาก มาในรูปแบบหัวปากกาเรียว นุ่ม กรีดง่าย กันน้ำ กันเหงื่อ สีไม่เข้มจนเกินไป เพราะหากเข้มจนเกินไปอาจส่งผลเสียต่อดวงตาในระยะยาวได้ เป็นเนื้อเจลด้าน สีดำ เขียนง่ายมากๆค่ะ แนะนำเลย

ถูกใจแบรนด์ไหนกันบ้างเอ่ย สาวๆคงจะเห็นกันแล้วใช่ไหมคะว่าการเลือกอายไลเนอร์กันน้ำ กันเหงื่อ ติดทนตลอดทั้งวันนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย ซึ่งมีหลายรูปแบบหลายแบรนด์ให้เลือกแตกต่างกันออกไป ใครชอบแบบไหนลองหาซื้อมาใช้กันดูนะคะ

เครดิตภาพ : Shopee 

#รีวิวเครื่องสำอาง #รีวิวของใช้ #รีวิวอายไลเนอร์