Categories
รีวิวเครื่องสำอาง

โทนเนอร์ตัวเด็ดตัวดัง จบทุกปัญหาผิว สิวหายเกลี้ยง!

เชื่อว่าการแต่งหน้าเป็นกิจวัตรประจำวันที่สาวๆทุกคนเลี่ยงไม่ได้ และแน่นอนว่าการแต่งหน้าบ่อยๆอาจทำให้เกิดสิวหรือปัญหาต่างๆตามมาได้ ดังนั้นก่อนแต่งหน้าเราต้องมีการบำรุงที่ดี โดยเฉพาะโทนเนอร์ ที่จะช่วยบำรุงและปรับสภาพผิวให้ชุ่มชื่น หากไม่ใช้โทนเนอร์ก่อนแต่งหน้าอาจทำให้เครื่องสำอางไม่ติดทนได้ค่ะ วันนี้เราจึงมีโทนเนอร์ตัวเด็ดตัวดังมาแนะนำ รับรองว่าถูกใจสาวๆกันย่างแน่นอน 

1.Kiehl’s Calendula Herbal Extract Alcohol-free Toner ราคา 900 บาท

เรียกว่ากำลังมาแรงมากค่ะสำหรับโทนเนอร์จาก Kiehl’s ตัวนี้ สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวมัน ผิงแห้ง หรือผิวผสม ด้วยสารสกัดเข้มข้นจากดอกดาวเรือง ช่วยบำรุงผิวให้ดูกระจ่างใส ช่วยปลอบประโลมผิวที่ระคายเคือง ไม่มีแอลกอฮอล์ แถมยังได้รับความนิยมสูงสุดอีกด้วย

ภาพจาก : Shopee 

2.Thayers Alcohol-Free Lavender Witch Hazel Toner ราคา 599 บาท

โทนเนอร์ตัวเด็ดตัวดังที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ด้วยสารสจากธรรมชาติแท้ๆ ที่ช่วยให้ผิวหน้ามีสุขภาพดี ลดการระคายเคือง ช่วยบรรเทารอยแดงรอยดำที่เกิดจากสิว แต่ยังคงความชุ่มชื่น นอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งการผลิตน้ำมันส่วนเกินที่เป็นสาเหตุการเกิดสิวอีกด้วย

3.SMOOTH E ACNE CLEAR WHITENING TONER ราคา 295 บาท

โทนเนอร์ที่ตอบโจมย์คนเป็นสิว เหมาะสำหรับคนเป็นสิวโดยเฉพาะ ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติที่เหมาะกับทุกสภาพผิว ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและช่วยปลอบประโลมผิวได้ดีมาก แถมยังจัดการกับความมันส่วนเกินได้เป็นอย่างดี ช่วยลดเลือนรอยแดง แม้ผิวไหม้จากแสงแดดก็สามารถช่วยได้ ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ ราคาถูกแต่คุณภาพล้นจริงๆค่ะ แนะนำเลย 

4.Neutrogena Alcohol-Free Toner ราคา 159 บาท

สำหรับโทนเนอร์ตัวนี้บอกได้เลยว่าสามารถปรับสภาพผิวและกำจัดสิ่งสกปรกได้เป็นอย่างดี ปราศจากแอลกอฮอล์ ไม่ทำให้ผิวแห้งแน่นอน กลิ่นหอมสดชื่นจากน้ำหอม ใครแพ้น้ำหอมไม่แนะนำตัวนี้นะคะ เหมาะกับทุกสภาพผิวเลย ผิวบอบบางก็สามารถใช้ได้ แถมยังไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน อ่อนโยนสุดๆ 

5.Clean & Clear Essentials Oil Control Toner ราคา 89 บาท

แม้ว่าราคาจะถูกแต่คุณภาพเกินราคาแน่นอนค่ะสำหรับโทนเนอร์ตัวนี้ เรียกว่าเป็นโทนเนอร์ขวัญใจวัยรุ่นเลยก็ว่าได้ ช่วยทำความสะอาดใบหน้าได้เป็นอย่างดี และกำจัดสิวเสี้ยนได้ดีมาก ไม่มีน้ำมัน แต่มีแอลกอฮอล์นะคะ ใครแพ้ไม่แนะนำค่ะ มาในราคาย่อมเยาสุดๆวัยรุ่นจับต้องได้ ลองใช้แล้วมารีวิวบอกต่อกันด้วยนะคะ 

นี่ก็เป็นโทนเนอร์ตัวเด็ดตัวดังที่เราคัดสรรมาให้ทุกคนโดยเฉพาะ มีหลากหลายยี่ห้อหลากหลายราคาให้เลือกเลย เลือกตัวที่เหมาะกับผิวหน้าตัวเองนะคะ ใครใช้แล้วก็อย่าลืมมารีวิวบอกต่อเพื่อนๆคนอื่นๆด้วยนะ 

เครดิตภาพ : Konvy

#รีวิวของใช้ #รีวิวเครื่องสำอาง #รีวิวโทนเนอร์

Categories
รีวิวเครื่องสำอาง

รีวิว แผ่นมาส์กหน้า ตัวช่วยให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส

สิ่งสำคัญสำหรับสาวๆอย่างเรา คือการดูแลผิวหน้า ซึ่งการมาส์กหน้าก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยดูแลผิวหน้าของเราได้ แถมยังเป็นตัวช่วยที่ดีในการช่วยฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน แต่ละสูตรก็ช่วยฟื้นฟูและบำรุงแตกต่างกันออกไป วันนี้เราจึงได้รวบรวมแผ่นมาส์กหน้าแต่ละสูตรมารีวิวให้สาวๆได้ฟังกัน เผื่อใครกำลังมองหาแผ่นมาส์กหน้าอยู่ จะได้เก็บไว้เป็นตัวเลือกได้ค่ะ ไปดูกันเลยว่าแต่ละสูตรช่วยบำรุงและฟื้นฟูเรื่องอะไรบ้าง 

1.BANOBAGI Vita Genic Jelly Mask Whitening ราคา 49 บาท


แผ่นมาส์กเจลลี่ตัวดัง เรียกว่าขายดีเทน้ำเทท่ากันเลยทีเดียวค่ะ เพราะราคาถูกแต่คุณภาพมากมายจริงๆ ด้วยส่วนผสมที่ช่วยลดปัญหาสิว เติมน้ำให้ผิวฉ่ำวาว อิ่มน้ำ เนียนนุ่ม สดใสดูเป็นธรรมชาติ ช่วยลดเรือนริ้วรอยต่างๆทั้งรอยแดง รอยดำ ฝ้า กระ รวมถึงผิวแพ้แดด บอกเลยว่าครบจบในซองเดียว แถมยังช่วยฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วนอีกด้วย ใครยังไม่ลองถือว่าพลาดมากกก

ภาพจาก : Cosmenet 

2.FOREO UFO™ Mask Make My Day ราคา 55 บาท

ตัวช่วยปกป้องผิวจากมลพิษในอากาศ ที่ตอบโจทย์อย่างมากในยุคปัจจุบัน ด้วยสารสกัดของผลไม้ น้ำดอกไม้ สาหร่ายสีแดง Hyaluronic Acid และออยล์ธรรมชาติ ที่มีส่วนผสมช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า

เพิ่มความชุ่มชื่น แต่งหน้าติดทนยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้นด้วย สาวๆที่ชอบแต่งหน้าบ่อยๆต้องลองแล้วล่ะ

3.GARNIER Serum Mask Hydra Bomb ราคา 69 บาท

แบรนด์ดังที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน ซึ่งไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ สำหรับมาร์กหน้าสูตรนี้อุดมไปด้วย Hyaluronic Acid ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นขึ้น เหมาะสำหรับผิวแห้งขาดน้ำ และสารสกัดจากทับทิมที่ช่วยบำรุงอย่างล้ำลึก ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้า คงความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าขาวใสเป็นธรรมชาติ 

4.Maskceuticals Prescriptive ราคา 69 บาท

แผ่นมาส์กจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาส์ก ที่มาพร้อมสารสกัดแบบเหนือชั้น ด้วย Pure Vitamin C 95% , Micro Fiber 100% ความชุ่มชื่น 200 เท่า และ Gluththione ที่ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้ใบหน้า ให้ผิวดูชุ่มชื่น อิ่มน้ำ ช่วยลดเรือนริ้วรอย ทั้งรอยแดง รอยดำ และฝ้าแดดได้เป็นอย่างดี

ยังไงก็อย่าลืมมาส์กหน้าแบบถูกวิธีกันด้วยนะคะ เพื่อการบำรุงและการฟื้นฟูอย่างล้ำลึก แนะนำว่าให้อ่านวิธีการใช้งานก่อนจะดีมากค่ะ เพราะมาส์กแต่ละสูตรก็แตกต่างกันออกไป ใครที่ลองสูตรไหนแล้วก็อย่าลืมมาแชร์ให้สาวๆคนอื่นๆด้วยนะคะ 

เครดิตภาพ :  Lazada, Shopee , Cosmenet 

#แผ่นมาส์กหน้า #ความสวยความงาม #รีวิวเครื่องสำอาง

Categories
รีวิวเครื่องสำอาง

Falete เจลแต้มรอยดำ รับประกันผิวใสใน 1 เดือน

ความเรียบเนียนของใบหน้า เป็นสิ่งสำคัญที่บรรดาสาวๆทั่วโลกต่างใส่ใจ แต่การจะมีใบหน้าที่เรียบเนียนขาวใสปราศจากจุดด่างดำหรือรอยสิวนั้นเป็นเรื่องยาก ในรีวิวนี้ผู้เขียนจึงขอนำเสนอไอเท็มเด็ดที่จะทำให้ปัญหากวนใจเหล่านี้หมดไปอย่าง Falete ati-melasma ครีมทาฝ้าลดรอยสิว

รีวิวหลังใช้ Falete ati-melasma

สำหรับใครที่มีรอยดำ รอยฝ้า ตามบริเวณต่างๆของร่างกายและผิวหน้า ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนัก คุณไม่ต้องเสียเวลาไปลงเงินกับครีมทาแผลเป็นราคาแพงหรือการยิงเลเซอร์แบบเจ็บๆ รวมถึงการขัดผิวที่ใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลอีกต่อไป เมื่อคุณมี Falete ati-melasma ซึ่งรับประกันแล้วว่า จะช่วยทำให้ผิวหน้าของคุณกลับมาขาวกระจ่างใสไร้ฝ้าไร้รอยดำได้ภายใน 1 เดือน โดยจากที่ผู้เขียนได้ทดลองใช้แล้วพบว่า เห็นผลจริงสมคำโฆษณา รอยดำรอยฝ้าลดลงจริง แต่ยังไม่ถึงขั้นหายไปแบบไม่ทิ้งคราบ ยังเห็นจางๆเท่านั้น ถ้าไม่สังเกตจริงๆหรือแต่งหน้ากลบจะมองไม่เห็นเลย ในส่วนของบรรจุภัณฑ์ทำออกมาได้ดีงามดูแพงสมราคาเกือบ 200 บาท เป็นหลอดพลาสติกซิลิโคนสีขาว มีความยืดหยุ่นตกไม่แตก บีบใช้ง่าย ปากหลอดจะเป็นปลายยาวแหลมสำหรับบีบตัวครีมใส่ได้ตรงจุด มีฝาเกรียวสีเงินสวยงาม เปิด-ปิดใช้งานง่าย สามารถตั้งไว้บนโต๊ะได้ด้วยหรือจะพกพาติดกระเป๋าก็ได้เช่นกัน ในด้านของเนื้อสัมผัสตัวยานั้น จะเป็นเนื้อครีมเจลสีขาวขุ่น เกลี่ยง่าย ซึมซาบเข้าผิวไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่ในส่วนของเนื้อครีมมีสรรพคุณเข้มข้นซึ่งช่วยผลัดเซลล์ผิวลดเลือนรอยดำได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่เหมาะแก่การใช้งานอย่างอื่นนอกจากแต้มรอยดำ เช่น การทาเพื่อบำรุงผิวหน้าหรือการใช้แต้มสิวสุก เพราะนอกจากใช้ไปสิวไม่ยุบ อาจเกิดการอักแสบได้อีกต่างหาก และหากใช้บำรุงผิวหน้าก็แรงเกินไป เพราะตัวยามีความเข้มข้นสูง แม้จะเป็นสูตรอ่อนโยนก็ตาม ดังนั้นจึงควรใช้งานให้ถูกวิธีและเหมาะสม ไม่ควรบีบใช้เยอะเกินไป แต้มแค่บางๆให้เคลือบบริเวณรอยดำก็เพียงพอแล้ว ในส่วนของความถี่ในการใช้งานนั้น ตามฉลากแนะนำว่า ควรทา 2 เวลา เช้า-เย็น เป็นประจำทุกวัน หากมากกว่านี้ เกรงว่าจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดีได้ ในส่วนของกลิ่นนั้นคล้ายกับกลิ่นครีมกันแดดของ Nivea ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะชอบไหม แต่ด้วยความที่เราแต้มเพียงเล็กน้อยและเนื้อครีมซึมเข้าผิวไวจึงแทบไม่มีโอกาสได้กลิ่นเลย 

เรื่องความคุ้มค่า 12 กรัมใช้ได้หลายเดือน ราคาตกอยู่ที่ประมาณเกือบ 200 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว เพราะเห็นผลจริง รอยดำรอยสิวจางอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสำหรับใครที่สนใจ Falete ati-melasma  สามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายยาทั่วประเทศ

#Falete เจลแต้มรอยดำ #รีวิวเครื่องสำอาง #รีวิวของใช้

Categories
รีวิวเครื่องสำอาง

รีวิว 4 อันดับแป้งไม่ผสมรองพื้นที่ใช้ดีที่สุด

แป้งไม่ผสมรองพื้นจัดว่าเป็นตัวช่วยในการแต่งหน้าให้เป็นลุคสาว ๆ แบบสุขภาพดี และแป้งที่ไม่ผสมรองพื้นก็ยังมีส่วนช่วยไม่ทำให้เกิดสิวขึ้นบนใบหน้าอีกด้วย ดังนั้นในบทความนี้ผู้เขียนจึงจะมารีวิว 4 อันดับแป้งไม่ผสมรองพื้นที่ใช้ดีที่สุดว่าแต่จะมีอะไรบ้างเรามาชมไปพร้อม ๆ กันเลยคะ

1.SASI Acne Sol Compact Powder 

เป็นแป้งที่มียอดขายดีมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ซึ่งเนื้อแป้งจะมาพร้อมกับความละเอียดที่จะช่วยให้สามารถเกลี่ยเข้าสู่ผิวหน้าได้แบบง่ายดายมากขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนผสมของสารบำรุงที่จะช่วยให้ใบหน้ามีความกระจ่างใสในแบบธรรมชาติอีกด้วย ดีงามและน่าใช้แบบนี้สงสัยจะต้องรีบไปสอยกันมาใช้กันเยอะ ๆ แล้วละคะ 

2.Srichand Translucent Compact Powder 

เป็นแป้งที่มียอดขายดีมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้โดยเนื้อแป้งจะมีความละเอียดในระดับหนึ่งที่จะช่วยให้สามารถเกลี่ยเข้าสู่ผิวหน้าได้แบบง่ายดายโดยที่ไม่เป็นคราบแต่อย่างใด พร้อมกับยังมีส่วนช่วยให้ใบหน้ามีความขาวกระจ่างใสที่มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ของดีและน่าใช้แบบนี้สงสัยจะต้องรีบไปสอยมาใช้กันเยอะ ๆ แล้วละคะ 

3.Cathy Doll Oil Control Film Pact 

เป็นแป้งทาหน้าอีกหนึ่งตัวที่ใช้ดีมากที่สุดเลยก็ว่าได้โดยจะมาพร้อมกับแพ็คเกจที่สวยงามและน่าใช้มากที่สุดแถมยังมีส่วนช่วยให้ใบหน้าของสาว ๆ ดูสว่างพร้อมยังช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้ดีในระดับหนึ่ง อีกทั้งยังมีส่วนช่วยปกปิดริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้าได้แบบเนียนสนิทมากพอสมควรอีกด้วย

4.Shiseido Baby Powder Pressed Medicate เป็นแป้งทาหน้าที่น้อง ๆ วัยเรียนนิยมซื้อไปใช้กันมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ซึ่งแป้งจะมาพร้อมกับแพ็คเกจที่ดูสวยงามและมีความแปลกตามากพอสมควรที่ชวนน่าใช้มากที่สุด พร้อมกับยังมีส่วนผสมของสารบำรุงและวิตามินอีที่จะช่วยให้ใบหน้ามีความกระชับและดูขาวใสแบบสาวเกาหลีอีกด้วย ดีงามและน่าใช้แบบนี้สงสัยจะต้องรีบไปเหมามาใช้กันคนละหลาย ๆ ตลับแล้วละคะ 

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับการรีวิว 4 อันดับแป้งไม่ผสมรองพื้นที่ใช้ดีที่สุดหวังว่าคงจะเป็นบทความที่ถูกใจสาว ๆ ที่กำลังมองหาแป้งทาหน้ามาใช้ในการตกแต่งใบหน้าให้ดูดีมากยิ่งขึ้น และสินค้าที่รีวิวไปข้างต้นก็ยังมาพร้อมกับคุณแบบจัดเต็มที่จะช่วยทำให้ใบหน้ามีความขาวกระจ่างใสที่มากขึ้นกว่าเดิม แหมถ้าสาว ๆได้ยินขนาดนี้แล้วสงสัยจะต้องรีบไปสอยแป้งไม่ผสมรองพื้นมาใช้กันคนละหลาย ๆ ชิ้นแล้วละคะ

เครดิตภาพ : Shopee

#รีวิวแป้งพัฟ #ทริคความงาม #รีวิวของใช้

Categories
รีวิวเครื่องสำอาง

แป้งตลับถูกและดี

สวัสดีค่ะซิส วันนี้เราจะมาพูดถึง แป้งพัฟหรือแป้งตลับกันค่า เชื่อว่าหลายๆคนก็คงจะมีแป้งตลับไว้ติดกระเป๋ากันใช่ไหมคะ จะเลือกซื้อทั้งที่ก็ต้องเลือกที่คุณภาพที่และราคาย่อมเยาว์  ได้ทั้งคุณภาพ แถมยังประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย วันนี้แอดเลยจะมาบอกต่อ แนะนำแป้งที่ถูกและดี ยี่ห้อไหนดียี่ห้อไหนปัง มาดูกันเลยย

แป้งsasi by Srichand Magic Matte Foundation Powder

                  มาที่ตัวแรก ตัวดังในตำนานอย่างแป้งศศิ แบรนด์น้องสาวของศรีจันทร์ ตัวนี้ออกมาคือดังมาก น้องจะมีทั้งหมด3เฉดสีด้วยกัน คือเบอร์ w1 ,w2 และ w3 ตัวนี้เนื้อแป้งเนียนละเอียดดี เบอร์3 เข้ากับสีผิวสาวไทยได้ดีเลยค่ะ ผิวแทนใช้แล้วรอด  ติดทนกันน้ำได้ดี เนื้อบางเบาไม่หนักหน้า ปกปิดได้ค่อนข้างดีเลยค่ะ ตัวตลับขนาดกำลังดี พกพาสะดวก มีพัฟให้ในตลับ ราคาก็แสนจะน่ารัก แค่ 129 บาทเท่านั้น หาซื้อได้ง่าย มากค่ะ  ต้องลอง

แป้งผสมรองพื้น Zendori

อีกหนึ่งตัวในตำนานที่หลายๆคนคงจะเคยได้ลองใช้หรือเคยเห็นผ่านๆตากันมาบ้างแล้ว อย่างแบรนด์ Zendari  

แป้งผสมรองพื้นที่คุณภาพเกินราคา ตัวนี้จะมี2สูตร2สี ตัวแรกจะเป็น Zendori Extra Cover Foundation SPF30 มาในตับสีส้มสดใส เป็ฯแป้งผสมรองพื้น มีกันแดดSPF 30 และอีกตัวจะเป็น ZENDORI UV Oil free SPF12 มาในตลับสีเขียวพาสเทลหวานๆน่ารักๆ ตัวนี้จะมีกันแดดSPF12 ถ้าจะถามถึงความต่างของทั้งสองตัว ก็คงต่างกันแค่SPF ตัวตลับจะเป็นโทนสีเดียว มีช่อง2ช่องสำหรับแยกใส่พัฟและตัวแป้ง มีกระจกให้ในตลับด้วย สะดวกมากๆ เนื้อสีธรรมชาติเข้ากับผิวได้ดี เนื้อแป้งเนียนละเอียด ควบคุมความมันได้ดี บางเบาเกลี่ยง่าย ทาแล้วดูเนียน ความปกปิดถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง อาจจะไม่ได้ติดทนมาก ต้องเติมระหว่างวัน กันแดดได้ มาในราคาแค่หลักสิบเท่านั้น หาซื้อได้ง่ายๆตามท้องตลาดเลยค่ะ

แป้งมิสทิน GRU Gen 2

อีกหนึ่งตัวสุดฮิต คงหนีไม่พ้นแป้ง มิสทีน ที่หลายๆคนคงรู้จักกันดี วันนี้เราจะมาพูดถึงสูตร GRU Gen 2ที่นางมาใน    คอนเซปสุดปัง “ไม่เนียน…เจอกรูตบ” ตัวนี้จะเป็นแป้งผสมรองพื้นที่เน้นเรื่องงานผิวใส ผิวดูธรรมชาติ  ต้องบอกว่าเนื้อคือเบามาก เน้นเป็นงานโชว์ผิว มาในตลับสีเหลืองสดใสฟรุ้งฟริ้ง มีกระจกแลกช่องใส่พัฟให้ในตลับ พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกมาในราคาสุดเริ่ด 139บาท คุ้มมากค่า

เครดิตภาพ : www.mistine.co.th , pantip, shopee

#แป้งตลับ #รีวิวเครื่องสำอาง #รีวิวของใช้