Category: รีวิวเครื่องสำอาง

“ชีววิถี” (Bio Way) เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางไทย ที่รังสรรค์มาจากวัตถุดิบธรรมชาติ ช่วยบำรุงผิวให้ชุมชื้นและอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว โดยในรีวิวนี้ เราจะมาแนะนำ หนึ่งในครีมบำรุงผิวทั้งถูกและดีของชีววิถีอย่าง “ชีววิถี ครีมน้ำนมข้าว”

ข้อดีข้อเสียของชีววิถี ครีมน้ำนมข้าว

จุดเด่นแรกที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ ชีววิถี ครีมน้ำนมข้าว เพราะมีราคาถูกมาก เพียงซองละ 20-30 บาทให้มาถึง 25 กรัม บรรจุภัณฑ์ซองพลาสติกเนื้อด้าน ฝาเกรียว เปิด-ปิด ง่าย พกพาสะดวก สามารถเก็บไว้ได้นานถึง 2 ปี บรรจุภัณฑ์รักโลกสามารถนำมารีไซเคิลได้ สำหรับคุณสมบัติของชีววิถี ครีมน้ำนมข้าวนั้น ทำมาจากน้ำนมข้าว ซึ่งเป็นอาหารผิวชั้นดี อุดมไปด้วยมอยเจอไรเซอร์ที่ดีต่อผิว ช่วยฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื้น นุ่มลื่น ชวนสัมผัส ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ ให้จางลงอย่างเห็นได้ชัด ผิวหน้าดูสดชื่นขึ้น มีชีวิตชีวา อิ่มน้ำ สามารถใช้ได้ทุกส่วนของร่างกายแม้กระทั่งใบหน้า ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติจึงอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว สำหรับวิธีใช้นั้น แนะนำให้ทาทั่วเรือนร่างหลังอาบน้ำ เพราะจะเป็นช่วงที่ผิวแห้ง รูขุมขนเปิดพร้อมรับการบำรุงมากที่สุด แต่สามารถทาได้ทุกเวลาตามต้องการ ซึ่งด้วยราคาที่ถูกแบบนี้ ย่อมมีข้อเสียตามมา เพราะนอกจากน้ำมันแร่ที่ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น ไม่ระคายเคือง สารสกัดจากจมูกข้าวที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดริ้วรอย ฟื้นฟูเซลล์ผิวและวิตามิน E ที่เป็นอาหารผิวชั้นดี ยังมีสารให้ความชุ่มชื้น ที่เน้นเคลือบผิวมากกว่าบำรุงอย่าง Petrolatum ที่ล้างออกยากมาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาผิวอุดตันตามมาได้และแม้จะรับประกันว่า สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว แต่แท้จริงแล้ว มีสารอันตรายที่คนแพ้ง่ายต้องระวังอย่างแอลกอฮอล์ น้ำหอมและสารกันบูด แม้จะในปริมาณเล็กน้อยก็ตาม ถึงอย่างนั้น แอลกอฮอล์ก็ยังมีบางส่วนที่ถูกสกัดจากไขมันธรรมชาติ ระคายเคืองต่อผิวน้อย ช่วยทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคได้ดี ส่วนน้ำหอมก็มีกลิ่นไม่แรงมาก ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้ ใส่มาเพื่อแต่งกลิ่นน้ำนมข้าวให้มีความหอมละมุนมากขึ้น

โดยส่วนตัวแล้ว หลังจากใช้พบว่า ผิวเต่งตึง กระจ่างใส สดชื่น ขึ้นจริงๆ หากทาก่อนนอนจะเห็นผลชัดเจนมาก ตื่นมาแล้วหน้าไม่โทรม ดูเปล่งปลั่ง อิ่มน้ำ ถึงอย่างนั้นก็ไม่เหมาะกับคนที่แพ้ง่ายและหน้ามัน  เพราะอาจก่อให้เกิดปัญหาสิวตามมาได้ในระยะยาว สำหรับใครที่สนใจชีววิถี ครีมน้ำนมข้าว สามารถหาซื้อได้ที่ 7-11 ทุกสาขา

#ครีมน้ำนม #เครื่องสำอาง #รีวิวสกิลแคร์

หากต้องการบำรุงผิวการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้มีประสิทธิภาพในการดูแลผิวได้อย่างเต็มที่ เมื่อใช้แล้วผิวใบหน้าของคุณจะสดใส ไม่แห้งหยาบกร้าน นอกจากนี้ผิวยังเรียบเนียน ไม่หมองคล้ำอีกด้วย แต่การเลือกใช้นั้นเราควรคำนึงถึงสภาพผิวของเราเป็นหลัก เพราะแต่ละคนมีสภาพผิวที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นถ้าอยากมีผิวหน้าที่สดใส จึงต้องเลือกใช้ครีมบำรุงที่แตกต่างกัน และไม่ควรใช้ตามคนอื่นอย่างเด็ดขาด ซึ่งเราสามารถเลือกได้ดังนี้ 

ผู้ที่มีผิวแห้ง

สำหรับผิวแห้ง ใบหน้าจะเป็นส่วนที่ต้องเผชิญกับมลภาวะมากที่สุดโดยเฉพาะแสงแดด ที่เป็นสาเหตุสำคัญทำให้เราสูญเสียน้ำหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ จึงเป็นส่วนที่ต้องการความชุ่มชื่นมากเป็นพิเศษ ดังนั้นเราจึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีเนื้อครีมเข้มข้น รวมทั้งควรทามอยเจอร์ไรเซอร์ทุกครั้งหลังการล้างหน้า และก่อนออกจากบ้านอย่าลืมทาครีมกันแดดสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งโดยเฉพาะกันด้วย เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ผิวของคุณชุ่มชื่นและไม่แห้งหยาบกร้านกันได้แล้วค่ะ

ผู้ที่มีผิวธรรมดา

สำหรับผิวธรรมดา ควรใช้นมสดในการบำรุงผิวพรรณ วิธีคือให้ใช้สำลีชุบนมสดวางปิดใบหน้าให้ทั่วทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ควรทำทุกวัน จากนั้นเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับผิวธรรมดากันต่อได้เลย ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทครีม โลชัน และเซรั่ม 

ผู้ที่มีผิวมัน 

การมีผิวหน้ามันคุณมักเกิดปัญหาสิวได้ง่ายกว่าผู้ที่มีผิวประเภทอื่น ดังนั้นควรหาเคล็ดลับในการช่วยปัญหากันด้วย วิธีง่ายๆ ในการจัดการกับปัญหานี้ก็คือการพอกหน้าด้วยสูตรจากธรรมชาติ อย่างเช่นการใช้น้ำผึ้งผสมกับไข่ขาว ประมาณครึ่งช้อนชาตีให้เข้ากัน นำมาพอกบนใบหน้าประมาณ 20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยกำจัดความมันบนใบหน้าอย่างได้ผล ส่วนในระหว่างวันให้เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีเนื้อบางเบาประเภท ชนิดน้ำ โลชัน และเซรั่ม เป็นต้น 

ผู้ที่มีผิวผสม 

ลักษณะของผิวผสมจะมีผิวมันและรูขุมขนกว้างบริเวณ ที-โซน และมีผิวธรรมดาถึงผิวแห้งในบริเวณข้างแก้ม จึงทำให้ผิวผสมดูแลรักษาผิวค่อนข้างยาก ผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ควรเป็นประเภทเนื้อโลชัน หรือประเภทเนื้อเจล และต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื่น รวมทั้งสามารถดูแลในเรื่องริ้วรอยให้แก่ผิวได้ นอกจากนี้คุณควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ทาบริเวณผิวที่แห้ง และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดปัญหาความมันในจุดที่หน้ามัน 

ทราบกันแบบนี้แล้วใครมีผิวแบบไหนก็อย่าลืมเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงให้เหมาะกับสภาพผิวของเรากันด้วยนะคะ

เครดิตภาพ : mgronline.com

#บำรุงผิวหน้า #การดูแลตัวเอง #รีวิวสำอาง

ปัจจุบันการฉีดโบท็อกซ์ให้หน้าเรียวกำลังเป็นที่นิยมในบ้านเรา เพราะไม่ต้องเจ็บตัวมากเหมือนการผ่าตัดทำศัลยกรรมหน้าเรียว เพียงแต่ว่าจะอยู่ไม่ถาวรเหมือนการศัลยกรรมเท่านั้นเอง หลายคนจึงยอมเจ็บตัวครั้งเดียวแล้วอยู่แบบถาวรไปเลย แต่ถ้าใครไม่อยากเจ็บตัววิธีนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่ช่วยให้คุณมีใบหน้าเรียว หล่อได้ในแบบของคุณเช่นกัน ที่สำคัญนอกจากไม่ต้องเจ็บตัวแล้วยังได้หน้าที่เรียวเห็นผลทันใจอีกด้วย แล้วทราบกันไหมค่ะว่าเจ้าโบท๊อกซ์ได้เราได้ยินกันคืออะไร แล้วต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหนถึงจะเห็นผล ใครอยากทราบเรามีคำตอบมาฝาก 

โบท๊อกซ์คือ

จริงๆ แล้วโบท็อกซ์คือโปรตีนบริสุทธิ์ที่สกัดมาจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง มีคุณสมบัติที่สามารถช่วยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวได้ ดังนั้นเมื่อเราฉีดโบท็อกซ์เข้าสู่กล้ามเนื้อ ก็จะทำให้กล้ามเนื้อในบริเวณนั้นเกิดการคลายตัว ส่งผลให้ริ้วรอยต่างๆ ลดน้อยลง และยังช่วยปรับขนาดกล้ามเนื้อให้เล็กลงได้จึงมีผลทำให้ใบหน้าของคุณดูเรียวเล็กอย่างที่ต้องการ  

ระยะเวลาในการเห็นผล

การฉีดโบท็อกซ์เพื่อให้หน้าเรียว หลังจากการฉีดคุณสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ และจากนั้นประมาณ 2-3 วัน คุณจะเริ่มเห็นผล แต่จะเห็นผลชัดเจนอย่างเต็มที่เมื่อผ่านไปแล้ว 7 วัน และระยะเวลาในการให้ผลจะอยู่ที่ประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลรักษาของแต่ละคน แต่ถ้าจะให้ดีส่วนมากคุณหมอจะแนะนำให้ฉีดประมาณ 2-3 ครั้งต่อปี เพราะหลังจากการฉีดครั้งแรกการฉีดครั้งต่อไปจะทำให้โบท๊อกคงสภาพอยู่ในผิวหน้าได้นานยิ่งขึ้น 

ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี

ต้องบอกว่าเพื่อความปลอดภัยและให้ได้ผลดี คุณควรฉีดกับคุณหมอที่มีความชำนาญ และควรเป็นสถานเสริมความงามที่ได้รับการยอมรับจากคนทั่วไป หรือเปิดขึ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากฉีดก็จะช่วยทำให้คุณมีใบหน้าเรียวได้อย่างที่คุณต้องการ และยังช่วยป้องกันปัญหาการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายร้ายแรงได้อีกด้วย    

ประโยชน์ของการฉีดโบท็อกซ์

การฉีดโบท็อกซ์จะมีประโยชน์ในเรื่องของความสวยความงามมากที่สุด แต่นอกเหนือจากนั้นก็คือ ช่วยให้คุณไม่ต้องเจ็บตัวหากต้องการมีใบหน้าเรียวได้รูป และยังช่วยให้คุณดูดีขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว รวมถึงหลายคนรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเสริมหล่อได้ในเวลาอันรวดเร็ว 
ปัจจุบันหนุ่มๆ หลายคนหันมาฉีดโบท็อกซ์กันมากขึ้น ทราบกันแบบนี้แล้วท่านใดอย่างมีใบหน้าเรียว หล่อเพอร์เฟ็คในแบบของคุณ โบท็อกซ์จัดเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ

เครดิตภาพ : kapook

#เสริมหล่อ #โบท๊อก #รีวิวความงาม

สิวเสี้ยนเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่ารำคาญสำหรับผิวหน้าและเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน ซึ่งนั่นคือปัญหาที่เป็นความกังลวลของหลาย ๆ คน การที่ผิวหน้าปราศจากสิวเสี้ยนจึงเป็นความมโชคดีของใครหลายคน แต่การกำจัดสิวเสี้ยนก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มี แต่กลับมีเอยะแยะมากมายให้ได้เลือกตามความสะดวก ซึ่งราคาก็แตกต่างกันออกไป แต่ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้คือวิธีการกำจัดสิวเสี้ยนที่ง่าย ราคาถูก สะดวกเพราะจะทำตอนไหนเมื่อไหร่ก็ได้ความสะดวกได้เลย

สิ่งนั้นคือมาส์กลอกสิวเสี้ยนที่มาพร้อมพลังของการกระชากสิวให้หลุดจากใบหน้าทำให้หน้าเรียบเนียนและกระจ่างใส

มาส์กลอกสิวเสี้ยนชั้นดีในเซเว่น

วันนี้เรามีมาส์กลอกสิวเสี้ยวที่มีวางขายในเซเว่นมาแนะนำกัน 2 สูตร 

1. เบสท์ โคเรีย แบล็ค เจล เฟซ แพค  

เบสท์ โคเรีย แบล็ค เจล เฟซ แพค  พลัง x3 คือลอกสิวเสี้ยน ลดความมัน และกระชับรูขุมขน  และยังมีส่วนผสมของแร่ธาตุ 50 ชนิดจากภูเขาไฟ 

เป็นแร่ธาตุที่ช่วยลอกสิวเสี้ยนได้ดีซึ่งจะทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนอีกด้วย เป็นมาส์กลอกหน้าด้วย 3 ปฏิบัติการ ลอกความมัน ลอกสิวเสี้ยน ขจัดสิ่งสกปรกแล้ะซลล์ผิวที่ตายแล้ว ช่วยกระชับรูขุมขนด้วยส่วนผสมของถ่านภูเขาไฟจากเกาะเจจูที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุมากกว่า 50 ชนิด

วิธีใช้ คือหลังจากทำความสะอาดผิวหน้าแล้ว ให้ใช้มาส์ก เบสท์ โคเรีย แบล็ค เจล เฟซ แพค ทาลงใบหน้า พอกทิ้งไว้ 20 นาทีหรือจนมาส์กแห้ง แล้วลอกออก จะพบสิวเสี้ยวบนแผ่นมาส์กสีดำเต็มไปหมด

2. อินเทนซีฟ เฟเชียล แบล็ค มาส์ก โรส วอเทอร์

อินเทนซีฟ เฟเชียล แบล็ค มาส์ก โรส วอเทอร์ ครีมมาส์กหน้าลอกสิวเสี้ยนให้ผิวแลดูกระจ่างใสด้วยมาส์กดำกุหลาบ นอกจากนี้ยังช่วยกระชับรูขุมขนและลดรอยดำได้อีกด้วย ทั้งยังช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขนได้อย่างหมดจด เช่น สิวเสี้ยน และสิวอุดตัน ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เป็นตัวการของความหมองคล้ำเป็นสูตรที่เพิ่มน้ำกุหลาบบริสุทธิ์ ช่วยปลอบประโลมผิวได้อย่างอ่อนโยน และแลดูกระจ่างใส

วิธีใช้ ทำความสะอาดใบหน้าและซับหน้าให้แห้ง ทามาส์กดำให้ทั่วใบหน้า เว้นบริเวณรอบดวงตา  ปาก คิ้ว และบริเวณไรผม พอกทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที หรือจนกว่ามาส์กจะแห้ง แล้วลอกออก

เพียงแค่นี้ก็จะทำให้ใบหน้าเนียนใสปราศจากสิวเสี้ยนได้ง่าย ๆ ถ้าอยากมีผิวหน้าเรียบเนียนอย่าลืมมาส์กลองสิวเสี้ยวในเซเว่นที่มาแนนำกันนะคะ

#ทริคความงาม #มาส์กลอกสิวเสี้ยน #รีวิวเครื่องสำอาง

อีกหนึ่งไอเทมที่จำเป็นสำหรับพ่อแม่คือการมองหา “ครีมกันแดดสำหรับเด็ก” เพราะไม่ว่าจะทำกิจกรรมไหนก็จำเป็นต้องมีลูกน้อยร่วมด้วย ซึ่งการทำกิจกรรมนอกบ้านย่อมต้องออกไปเจอแสงแดด หากผิวลูกน้อยโดนแดดก็จะทำให้ผิวคล้ำเสีย หรืออาจทำให้เกิดปัญหาด้านผิวหนังได้ ดังนั้น เมื่อต้องพาลูกน้อยไปทำกิจกรรมพ่อแม่ควรดูแลผิวให้ลูกน้อยด้วยการทากันแดด แต่หากไม่รู้ว่าจะใช้ยี่ห้อไหนดี วันนี้เรามีมาแนะนำค่ะ มียี่ห้อไหนบ้างตามไปดูกันเลย 

1.Little Monkey ราคา 287 บาท

ครีมกันแดดสำหรับเด็กสูตรออร์แกนิค เป็นสูตรอ่อนโยน มีความปลอดภัยปลอดสารพิษ ปราศจากการแต่งกลิ่นและสี เหมาะสำหรับผิวบอบบางและผิวแพ้ง่าย โดยเฉพาะผิวเด็ก มี SPF50 PA+++ ช่วยป้องกันแสงแดดและกันน้ำได้เป็นอย่างดี เกลี่ยง่าย และพกพาง่ายสุดๆ

2.NIVEA SUN KIDS SWIM & PLAY ราคา 345 บาท

มาพร้อมความบางเบา อ่อนโยน และไม่เหนียวเหนอะหนะ เนื้อครีมเกลี่ยง่ายซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ต้องครีมกันแดดสูตรนี้เลย ปราศจากสารเคมีที่เป็นพิษ แถมยังเป็นสูตรที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันจากรังสียูวีได้ สามารถกันน้ำได้ และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง 

3.La Roche Posay Anthelios ราคา 370 บาท

กันแดดสำหรับเด็กที่มาในรูปแบบเนื้อเจลโลชั่น เป็นสูตรที่ให้การปกป้องสูง สามารถกันน้ำกันเหงื่อได้ เนื้อเกลี่ยง่ายไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว มี SPF50+ พร้อมการปกป้องจากรังสี UVA ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี ปราศจากพาราเบน ปลอดภัยแน่นอน

4.Neutrogena,Wet Skin Kids, Beach & Pool Stick Sunscreen ราคา 510 บาท

หากต้องทำกิจกรรมที่ต้องลงน้ำหรือเล่นน้ำกลางแจ้ง ครีมกันแดดสูตรนี้มีประสิทธิภาพในการปกป้องผิว ช่วยป้องกันผิวไหม้ ป้องกันแสงแดดและป้องกันรังสี UVA , UVB ได้เป็นอย่างดี สามารถกันน้ำกันเหงื่อได้ ปราศจากพาราเบนและน้ำหอม มีความปลอดภัย สามารถทาได้ทั้งผิวแห้งและผิวเปียก มี SPF70 ช่วยปกป้องผิวได้อย่างดีเยี่ยม

5.Aveeno Baby Continuous Protection ราคา 750 บาท

ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ที่ช่วยป้องกันรังสี UVA , UVB และสารสกัดจากข้าวโอ๊ตที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว เหมาะสำหรับผิวเด็กหรือผิวที่บอบบางแพ้ง่าย ปราศจากพาราเบน น้ำหอม และพาทาเลต สามารถกันน้ำได้นาน อ่อนโยน ปลอดภัย เป็นอีกสูตรที่แนะนำค่ะ 

เครดิตภาพ : shoppee

#รีวิวของใช้ #ครีมกันแดดเด็ก #เครื่องสำอาง

ไอเท็ทสำคัญไม่แพ้กับการบำรุงด้วยสกินแคร์ ก็คือครีมกันแดด หากเราไม่ทาครีมกันแดด ผิวก็จะถูกทำร้ายได้อย่างง่ายดาย ทำให้การใช้สกินแคร์ได้ประสิทธิภาพน้อยลง จนอาจทำให้เกิดผลเสียตามมา ภัยเงียบที่แฝงตัวมากับแสงแดดนั้นมีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น ผิวไหม้ คล้ำเสีย ก่อให้เกิดปัญหาฝ้า กระ ความชุ่มชื้นถูกทำลาย ส่งผลให้ผิวอ่อนแอ เกิดสิวขึ้นง่าย ยิ่งผิวมันยิ่งเกิดความันส่วนเกินมากขึ้น รวมถึงการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย

ดังนั้นการทาครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่งหากยังไม่รู้จะใช้กันแดดตัวไหนดี ลองมาดูลิสต์ครีมกันแดดแนะนำกันเลย

• Nivea Sun Protect

ขึ้นแท่นครีมกันแดดยอดฮิตมาโดยตลอด ด้วยคุณภาพที่น่าสนใจมากๆ มีให้เลือก 3 สูตร เริ่มที่สูตรสีเขียว เหมาะสำหรับสภาพผิวมัน เป็นสูตรลดความมันส่วนเกินได้ดี ช่วยลดการอุดตัน ไม่ทำให้รูขุมขนกว้าง จึงช่วยป้องกันสาเหตุของการเกิดสิวได้ ต่อมาสูตรสีชมพู จะช่วยปรับระดับสีผิวให้ขาวอมชมพูขึ้น มาพร้อมสารสกัดที่จะช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำให้กระจ่างใส และยังให้ความชุ่มชื้น ถัดมาเป็นสูตรเหลือง ซึ่งใช้ได้กับทุกสภาพผิว ช่วยให้ความชุ่มชื้น และซึมไว จึงไม่ทำให้ผิวมัน แถมยังช่วยฟื้นฟูผิวให้ขาวใสขึ้น 

• Biore aqua rich watery essence 

เป็นอีกหนึ่งกันแดดชื่นดัง ด้วยความกันแดดตัวนี้มีส่วนประกอบที่เป็นนวัตกรรมจากญี่ปุ่นอย่าง micro defense ก็คืออนุภาคของสารสกัดที่เล็กมาก จึงช่วยบำรุงได้อย่างล้ำลึก บำรุงถึงชั้นคอลลาเจนผิว จึงให้ประสิทธิภาพกันแดดที่สูงมาก ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ป้องกันผิวคล้ำเสีย และปกป้องผิวสูญเสียความชุ่มชื้น อีกทั้งเนื้อสัมผัสยังมีความบางเบา แบบเอสเซ้นส์ จึงซึมไว ไม่เหนอะหนะ และคุมมันตลอดวันได้ดี 

• L’oreal UV perfect aqua essence 

เป็นครีมกันแดดที่มีความบางเบา ไม่เหนอะหนะผิว เนื้อเจลบางๆ ประสิทธิภาพการกันแดดที่สูงมาก ช่วยป้องกันผลเสียต่างๆ ที่เกิดจากรังสียูวี เช่น จุดด่างดำ ฝ้า กระ ปัญหาผิวคล้ำเสีย เป็นต้น อีกทั้งยังมีส่วนของการบำรุง Adenosine เพื่อฟื้นฟูผิวถูกทำร้ายอย่างล้ำลึก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น จึงช่วยทั้งป้องกันแสงแดดและบำรุงไปพร้อมๆ กันเลย 

ปัจจุบันนี้ได้มีครีมกันแดดหลักร้อยถูกผลิตออกมาอย่างมากมาย ซึ่งล้วนแล้แต่ใช้ดี น่าสนใจมากๆ นับว่าทั้ง 3 ไอเท็มนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง สามารถเลือกใช้ได้ตามชอบ ที่สำคัญอย่าลืมทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนเผชิญกับแสงแดดที่ร้อนสุดๆ หรือพยายามเลี่ยงแดดแรงๆ ด้วยก็ได้ 

#รีวิวเครื่องสำอาง #การดูแลผิว #ครีมกันแดดแนะนำ

เชื่อว่าเป็นสิ่งที่สาวๆหลายคนต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษเลยสำหรับการดูแลผิวหน้า เพราะปัจจุบันนี้ทั้งฝุ่น แบคทีเรีย รวมไปถึงการใส่แมสบ่อยๆ อาจทำให้ใบหน้าของเราเกิดความหมองคล้ำ หรือเกิดปัญหาสิวได้ แต่หากเรามีตัวช่วยที่ดีที่ช่วยทำความสะอาดหน้าก็จะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้ ตัวช่วยที่เราอยากแนะนำในวันนี้คือ “คลีนซิ่งเจล” เชื่อว่าใช้แล้วจะช่วยดูแลผิวหน้าของเราได้เป็นอย่างดีเลย 

1.Skinsista Acne Clear Cleansing Gel ราคา 179 บาท

ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ ทำให้ได้คลีนซิ่งเจลสูตรอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ผิวบองบางแพ้ง่ายสามารถใช้ได้ ปราศจากน้ำมันและน้ำหอม ช่วยลดปัญหาสิวเสี้ยนและสิวอุดตันได้เป็นอย่างดี ช่วยดูดซับความมันส่วนเกินบนใบหน้าและสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.ZERMIX Cleansing Gel ราคา 245 บาท

คลีนซิ่งเจลสูตรอ่อนโยนที่อุดมไปด้วยสารที่ช่วยถนอมผิวบอบบางแพ้

ง่ายโดยเฉพาะ ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารเคมีอื่นๆ ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ช่วยเติมความชุ่มชื้นแก่ผิวได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหนัง เพราะตัวคลีนซิ่งจะเป็นเนื้อเจลไม่มีฟอง ช่วยถนอมผิว

สำหรับใครที่มีผิวแห้งกร้าน เป็นขุย ขอแนะนำเลย 

3.De Latex Cream All-In-One Deoxifying Deep Cleansing Water Gel ราคา 299 บาท 

อุดมไปด้วยสารสกัดจากว่านหางจระเข้ สามารถใช้เป็นโฟมล้างหน้าและใช้เป็นคลีนซิ่งลบเครื่องสำอางได้ อ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ปราศจากน้ำหอม พาราเบน แอลกอฮอล์ และน้ำมันต่างๆ ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ลดปัญหาสิวอักเสบและสิวอุดตัน และไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังการใช้งาน

4.Clearasoft Cleansing Gel ราคา 329 บาท

ตัวช่วยจัดการปัญหาสิว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิวอักเสบ สิวอุดตัน หรือรูขุมขนกว้าง อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ อ่อนโยนต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ช่วยจัดการความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี ไม่มีฟอง ช่วยถนอมผิวได้ดี ที่สำคัญคือช่วยให้ผิวหน้ามีความกระจ่างใสมากขึ้นอีกด้วย 

5.The Body Shop Oils Of Life Intensely Revitalising Cleansing Oil-In Gel ราคา 445 บาท 

ผสมผสานพลังจากน้ำมันธรรมชาติ มั่นใจได้เลยว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอน ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่ผ่านการคัดสรรอย่างดี ช่วยบำรุงให้ผิวหน้าเนียนนุ่มชุ่มชื้น กระจ่างใส ตอบโจทย์สำหรับคนที่แต่งหน้าหนักๆ เพราะสามารถช่วยทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เครดิตภาพ :  cosmenet , Shopee 

#ความสวยงาม #รีวิวเครื่องสำอาง #รีวิวคลีนซิ่ง