Categories
รีวิวของกิน

เต้าทึง ของหวานหาทานยาก อุดมไปด้วยคุณประโยชน์

เต้าทึง” เป็นเมนูขนมหวานจากประเทศจีนที่เข้ามามีอิทธิพลในไทย พร้อมๆกับการอพยพของชาวจีน  โดยเต้าทึงนั้น มาจากคำว่า “เต้าโทง” ที่หมายถึง “น้ำแกง” ในภาษาจีนแต้จิ๋ว หากแยกคำ “เต้า” ในภาษาจีนนั้น แปลว่า “ถั่ว” บ่งบอกถึงส่วนผสมหลักของขนมหวานจีนที่มีถั่วเป็นหลัก เช่น เต้าหู้ เต้าฮวย เต้าทึง ซึ่งนอกจากเต้าทึงจะอร่อยแล้ว ยังมีคุณประโยชน์มากมายหลายประการ

ความหอมอร่อยของเต้าทึง

เต้าทึง เรียกได้ว่า เป็นเมนูน้ำแข็งใสของชาวจีนที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ เพราะแต่ละส่วนผสมนั้นล้วนแต่เป็นธัญพืช ไม่ว่าจะเป็น แปะก๊วย รากบัว เม็ดบัว พุทราจีน ลูกเดือย ถั่วเขียว เฉาก๊วย และอื่นๆอีกมากมาย ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละร้านจะใส่อะไรลงไป โดยวิธีการทำเต้าทึงนั้นก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่คุณใส่น้ำเชื่อมลงไปในหม้อ เคี่ยวให้หวานอร่อย จากนั้นใส่ธัญพืชต่างๆลงไปตามชอบ ต้มต่อให้ความหวานซึมเข้าสู่ธัญพืช ปิดท้ายด้วยการใส่น้ำแข็งใสหรือน้ำแข็งป่นลงไป บางที่ก็ใช้น้ำลำไยแทนน้ำเชื่อม โดยการนำลำไยไปต้มกับน้ำเปล่า ให้ความรู้สึกสดชื่นไปอีกแบบ สำหรับคุณประโยชน์ของเต้าทึงนั้น มาจากธัญพืชมากมายที่ใส่ลงไป ไม่ว่าจะเป็น ลำไยที่ช่วยในเรื่องของการบำรุงสายตา ป้องกันโรคมะเร็ง บำรุงหัวใจ ทำให้รู้สึกสดชื่น ลูกเดือยที่มีใยอาหารสูงช่วยในการขับถ่าย มีคาโบไฮเดรตให้พลังงานได้ดีไม่แพ้ข้าว รากบัวช่วยเรื่องความดันโลหิต บรรเทาอาการร้อนในกระหายน้ำ ถั่วเขียวที่อุดมไปด้วยโปรตีน ซึ่งจำเป็นในการซ่อมแซมร่างกาย เฉาก๊วยช่วยในการขับเสมหะ แก้ร้อนใน เรียกได้ว่าเป็นเมนูอร่อยง่ายๆที่สามารถประยุกต์ได้หลากหลาย อีกทั้งยังราคาถูก บางร้านขายเพียงแค่ชุดละ 10 บาท ถ้าใส่เครื่องเยอะหน่อยราคาก็ไม่เกิน 30 บาท นอกจากธัญพืชต่างๆบางเจ้ายังมีการใส่บัวลอยลงไป ไม่ว่าจะเป็น บัวลอยเผือก บัวลอยงาดำ หรือแค่บัวลอยธรรมดา ในส่วนของรสชาตินั้น เต้าทึงหวานหอมสดชื่น ตัดเลี่ยนด้วยธัญพืชที่มีรสชาติมันๆ เคี้ยวสนุก คลายร้อนได้ดี เป็นเมนูที่ทำทีนึงแล้วเก็บไว้กินได้หลายวันไม่เน่าเสียง่ายๆ

ปัจจุบันเต้าทึงได้รับความนิยมในบางพื้นที่เท่านั้น ไม่เหมือนกับเต้าหู้ เต้าฮวย ที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป บอกเลยว่าทุกวันนี้การทำเต้าทึงกินเองนั้น ง่ายกว่าหาซื้อ เพราะไม่ค่อยมีคนรู้จักและน้อยเจ้านักที่จะเอามาขาย แต่สำหรับใครที่เคยลองชิมเต้าทึง มั่นใจเลยว่าคุณต้องติดใจจนอยากกลับไปทานซ้ำอย่างแน่นอน

เครดิตภาพ : oknation.nationtv.tv, wongnai.com

#รีวิวของกิน #เต้าทึง #ประโยช์นของหวานเต้าตึง

 

Categories
รีวิวของกิน

โตเกียวทรงเครื่อง ที่พร้อมกินตลอด 24 ชั่วโมงตรา BOW

โตเกียว อาหารว่างชื่อญี่ปุ่น แต่เป็นอาหารไทยแท้ๆ ทั้งฮิตและเป็นที่นิยมสำหรับเด็กไทยทุกคนในสมัยนั้นเลย เพราะเชื่อว่าทุกคนต้องเคยเห็นอาหารชนิดนี้ ไม่นอกก็ในโรงเรียน ซึ่งปัจจุบันการหาทานขนมโตเกียวนั้น ค่อนข้างทำได้ยาก ด้วยความที่เป็นขนมที่ต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะตัว และมีขายน้อยมากๆแม้ในเทศกาลต่างๆ แต่สำหรับใครที่อยากจะกินโตเกียวอีกครั้ง เพื่อหวนคืนวันเก่าๆ ขอแนะนำขนมโตเกียวทรงเครื่อง ไส้ไส้กรอกไก่ผสมหมูสับไก่สับ ตรา BOW ในราคา 22 บาท

รสชาติและเนื้อสัมผัสของโตเกียวทรงเครื่อง

โตเกียวทรงเครื่อง ไส้ไส้กรอกไก่ผสมหมูสับไก่สับ ตรา BOW มาในแพ็คเกจกะทัดรัด สามารถกินได้ทันที แต่เพื่อความอร่อยควรเวฟให้อุ่นสักหน่อย แม้ว่าจะไม่เวฟเราก็สามารถได้รับรสชาติของแป้งโตเกียวทรงเครื่องคล้ายๆกันบโตเกียวที่เราซื้อมาสดใหม่จากเตา แต่เก็บไว้แล้วค่อยกินตอนเย็นๆ หรือหากคุณต้องการแป้งโตเกียวร้อนๆ เหมือนพึ่งเอาขึ้นออกจากเตาก็แค่เวฟให้ความร้อนนิดๆก็จะอร่อยขึ้น ในส่วนของรสชาติถือว่า คล้ายคลึงกับโตเกียวมากจนน่าเหลือเชื่อว่า จะเป็นอาหารแช่เย็น ด้วยแป้งที่หอมนุ่ม ไส้ของไส้กรอกหมูสับไก่สับที่ให้เยอะสมราคา 22 บาท เหมาะแก่การเป็นโตเกียวทรงเครื่องที่กินได้ทุกที่ทุกเวลา อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับโตเกียวต้นฉบับแล้ว โตเกียวทรงเครื่องตรา  BOW ก็มีจุดต่างที่สายชอบทานโตเกียวแท้ๆ อาจไม่ชอบ เริ่มจากแป้ง ที่โดยปกติแป้งของโตเกียวจะมีความบางเพียงเล็กน้อย กับความกรอบเวลากินเข้าไป ซึ่งนั่นเป็นจุดอ่อนของอาหารแช่เย็นที่ยังที่ไม่สามารถรักษาความกรอบไว้ได้  แต่ก็ถือว่าแป้งของโตเกียวทรงเครื่องตรา  BOW หนาไปอยู่ดี จนบางครั้งรู้สึกว่ากำลังทานแพนเค้กไส้คาวมากกว่า ในส่วนของไส้ทรงเครื่องให้มาเยอะ รสชาติพอใช้ได้ แต่รสชาติโดยรวมยังไม่เข้ากัน โดยเฉพาะซอสมะเขือเทศที่หวานจนเด่นออกมาเลย

ส่วนหนึ่งที่ทำให้โตเกียวทรงเครื่องตรา BOW มีความอร่อย เพราะผลิตภัณฑ์สินค้าหลักของ BOW เป็นขนมปังที่มีคุณภาพและอร่อยสมราคา นอกจากนี้ โตเกียวทรงเครื่องตรา BOW เป็นแฮนเมดแทบร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงมั่นใจได้เลยว่าทุกชิ้นใส่ใจในทุกขั้นตอน อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่ชื่นชอบการกินโตเกียวทรงเครื่องและอยากซื้อกินแบบง่ายๆ สะดวกรวดเร็ว โตเกียวตรา BOW คือ ตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยปัจจุบันโตเกียวทรงเครื่องตรา  BOW มีไส้ทรงเครื่องให้เลือกถึง 2 แบบทั้งไส้กรอกไก่ผสมหมูสับไก่สับ และไข่นกกระทาทรงเครื่อง แต่หากคุณเป็นสายต้นฉบับที่ขอแค่ไส้คาวที่เป็นไส้กรอกกับซอสมะเขือเทศหรือไส้หวาน อาจจะต้องรอสักหน่อย

#รีวิวของกิน #รีวิวของเซเว่น #โตเกียวทรงเครื่อง BOW

Categories
รีวิวของกิน

ปาท่องโก๋ ขนมแสนอร่อยที่เกิดจากความแค้น

ปาท่องโก๋’หรือในภาษาจีนดั้งเดิม ‘แปะทึงกอ’ หมายถึง ขนมแป้งน้ำตาลสีขาว โดย ‘แปะ’ แปลว่าขาว ‘ทึง’ แปลว่า น้ำตาลและ ‘กอ’ แปลว่า ขนม แต่แท้จริงแล้วแปะทึงกอไม่ใช่ปาต้องโก๋ที่เรารู้จักกัน โดยชื่อที่แท้จริงของปาท่องโก๋ คือ ‘อิ่วจาก่วย’ ซึ่งเป็นขนมที่ขายคู่กันในร้านเดียวกับแปะทึงกอ ด้วยความที่ชื่อของแปะทึงกอจดจำง่ายกว่า คนจึงมักเรียกอิ่วจาก่วยว่าแปะทึงกอด้วย

ต้องย้อนไปถึงสมัยราชวงศ์ซ่ง ที่ถูกตีพ่ายจนล่มสลายและได้ถือกำเนิดใหม่เป็นราชวงศ์ซ่งใต้ ในสมัยที่ฮ่องเต้ของราชวงศ์ซ่งใต้ปกครอง มีแม่ทัพคนหนึ่งชื่อ ‘งักฮุย’ เป็นแม่ทัพที่เก่งกาจซื่อสัตย์และมีคุณธรรม เขาต่อสู้กับศัตรูและช่วยปกป้องบ้านเมืองมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ด้วยความเก่งกาจของเขา ทำให้ขุนนางชั่วอย่าง ‘ฉิ่นไคว่’ เกิดความอิจฉาริษยาขึ้น จึงได้ไปเป่าหูฮ่องเต้ให้จับงักฮุยขัง หลังจากนั้นซ่งใต้ก็ไม่เคยเอาชนะศัตรูได้อีกเลย สร้างความโกรธแค้นให้ชาวเมืองมากมาย นั่นยังไม่พอ ฉิ่นไคว่ยังถูกภรรยาเป่าหูว่า หากปล่อยให้งักฮุยมีชีวิตอยู่ อำนาจทางการเมืองอาจสั่นคลอนและสักวันงักฮุยอาจจะขึ้นเป็นใหญ่ในแผ่นดินได้ ให้ชิงวางยาฆ่าเขาเสียก่อน ฉิ่นไคว่จึงวางยาพิษฆ่างักฮุยตายคาคุก หลังชาวบ้านรู้เรื่องนี้เข้าจึงโกรธแค้นฉิ่นไคว่และภรรยามาก ภายหลังจากมีรูปปั้นสรรเสริญงักฮุยให้เป็นเทพแห่งความซื่อสัตว์ ก็มักจะมีรูปปั้นครึ่งตัวฉิ่นไคว่และภรรยาตั้งอยู่ใกล้ๆด้วย แต่นั่นไม่ได้เอาไว้สรรเสริญ เป็นรูปปั้นที่เอาไว้ระบายอารมณ์ให้ชาวเมืองขว้างปาสิ่งของและถ่มน้ำลายใส่ ชาวเมืองทุกคนต่างเกลียดชังฉิ่นไคว่มาก รวมถึงพ่อค้าสองคนในตลาดที่ตั้งร้านขายคู่กัน คนหนึ่งขายแป้งคนหนึ่งขายของทอด ยามว่างไม่มีลูกค้าพวกเขาก็คุยกันเรื่องการเมืองลามไปถึงเรื่องราวชั่วร้ายที่ฉิ่นไคว่ได้ทำลงไป ด้วยความโกรธแค้นพ่อค้าแป้งได้นำแป้งของตัวเองมาปั้นเป็นฉิ่นไคว่และภรรยาใช้มีดสับละเอียด ส่วนพ่อค้าขายของทอดก็นำแป้งนั้นไปทอดในน้ำมัน เมื่อชาวเมืองได้เห็นพฤติกรรมดังกล่าวก็ตามเข้ามามุงดูกัน ทำให้พ่อค้าทั้งสองขายดี เรื่องไปถึงหูฉิ่นไคว่เจ้าตัวก็ไม่พอใจอย่างมากให้ทหารมาจับพ่อค้าทั้งสอง แต่พ่อค้าทั้งสองอ้างว่า เป็นแค่การตลาดทำขนมขายเท่านั้น ฉิ่นไคว่จึงไม่มีเรื่องไปเอาผิดพ่อค้าได้ หลังจากยอดขายดีมากพ่อค้าทั้งสองจึงรวมร้านกันและเกิดเป็นขนมอิ่วจาก่วยที่ชาวเมืองมักนิยมซื้อไปทอดกินเพื่อระบายความแค้น เมื่อขายดีมากการปั้นเป็นรูปตัวคนก็เป็นเรื่องยาก จึงทำเป็นแป้งสองแท่งแทนตัวคู่สามีภรรยาแปะติดกันเกิดเป็นปาท่องโก๋แบบที่เราเห็นในปัจจุบัน

ส่วนวิธีกินขนมปาท่องโก๋ที่ถูกต้องแบบสะใจให้หายแค้น ชาวจีนจะนิยมนำขนมชนิดนี้ มาฉีกออกจากกัน ก่อนจะจิ้มนมหรือน้ำชาและกินทีละแท่ง ซึ่งใครที่ชอบกินปาท่องโก๋ก็สามารถหาซื้อได้ง่ายในปัจจุบัน แถมยังราคาไม่แพงตกตัวละ 1-2 บาทเท่านั้น

เครดิตภาพ : blockdit.com, sanook.com, timeout.com

#รีวิวของกิน #ของอร่อย #ที่มาปาท่องโก๋

Categories
รีวิวของกิน

ไก่ย่างห้าดาว สุดยอดไก่ย่างในตำนาน

ไก่ย่าง เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมนานาประเทศ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็เจอและหากินได้ง่ายมาก อุปกรณ์ครบก็ทำเองได้ไม่ยาก แต่ใช่ว่าไก่ย่างทุกเจ้าจะอร่อย เพราะรถสนิยมการทานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งในประเทศไทยเองก็มีไก่ย่างอยู่เจ้าหนึ่ง ที่จัดว่าเป็นไก่ย่างในตำนานอยู่คู่ชาวไทยมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ ใครกินก็บอกว่าอร่อย อีกทั้งราคายังไม่แพงมาก นั่นคือ ไก่ย่างห้าดาว ที่หลายคนรู้จักกันดีนั่นเอง

ความอร่อยของไก่ย่างห้าดาว

ไก่ย่างห้าดาว เป็นแฟรนไชส์ร้านขายไก่ย่างและอาหารที่เน้นไก่เป็นหลัก โดยที่ร้านไก่ย่างห้าดาวซุ้มหนึ่งจะมีเมนูให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเปน ไก่จ๊อรส Original เนื้อแน่นเด้งสู้ฟัน หอมอร่อยอย่าบอกใคร และไก่จ๊อพริกที่เหมือนกับไก่จ้อสูตรดั้งเดิมทุกอย่าง แค่ใส่พริกเข้าไปเพิ่มความจัดจ้าน ไส้กรอกไก่แน่นๆ  ปลาแท่งชีสชุบแป้งทอด ไปจนถึงข้าวเหนียว และข้าวมันไก่รสกลมกล่อม ซึ่งเมนูของไก่ย่างห้าดาวที่ผู้เขียนจะมารีวิวในวันนี้คือ ไก่ย่างสูครดั้งเดิมของไก่ย่างห้าดาวนั่นเอง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าห้าดาว แถมยังเป็นเมนูชูโรงของแฟรนไชส์ ทุกท่านก็คาดหวังได้เลยว่ามันต้องอร่อย โดยไก่ย่างห้าดาวนั้น จะมีหลากหลายราคา ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากได้ปริมาณเท่าไหร่ หากไก่ย่างห้าดาวแบบครึ่งตัวราคาก็จะอยู่ประมาณ 140 บาท ถ้าเอาทั้งตัวราคาก็ไม่เกิน 200 ซื้อมาทีก็กินได้หลายมื้อ กินกันได้ทั้งครอบครัว มาพร้อมกับน้ำจิ้มไก่ย่างห้าดาวรสเด็ด รสชาติไม่เผ็ด คล้ายๆกับน้ำจิ้มบ๊วยแต่มีความเปรี้ยวของน้ำจิ้มไก่ผสมเข้ามา กินคู่กับไก่ย่างห้าดาวและข้าวเหนียวอร่อยเหาะ ส่วนเนื้อของไก่ย่างห้าดาวนั้น มีหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นส่วนอกไก่เนื้อแน่น ปีกไก่แทะสนุกฟัน หรือจะเป็นน่องไก่ที่มีหนังเยอะๆ เนื้อเด้งๆ โดยไก่ย่างห้าดาวถูกหมักด้วยเครื่องเทศสมุนไพรให้ไก่อร่อยนุ่มยิ่งขึ้นอย่าง สามเกลอ ได้แก่ เกลือ พริกไทย รากผักชี และอื่นๆ ที่ทำให้ไก่มีความหอมนุ่ม อร่อยระดับห้าดาว โดยไก่ย่างห้าดาวจะถูกห่อด้วยแผ่นฟรอยเพื่อเก็บรักษาความร้อน ใส่มาในถุงพลาสติกหูหิ้วและมีน้ำจิ้มแถมมาให้เยอะมาก

ไก่ย่างห้าดาวนั้น เมื่อซื้อมาแล้วก็ควรกินให้หมดภายในวันเดียว เพราะถ้าทิ้งไว้นอกตู้เย็นนานๆไก่จะเน่าได้ หากใครที่ซื้อมาเยอะแล้วกินไม่หมดก็ไม่ต้องเสียดายไป นำไปเวฟไก่ก็ยังอร่อยเหมือนเดิม แค่จะแห้งกระด้างขึ้นเท่านั้น หรือนำไก่ไปผัดกับซอส เป็นเมนูต่างๆ กินกับข้าวอร่อยๆก็ได้

เครดิตภาพ : Facebook ไก่ย่างห้าดาว Five Star สาขาแยกวุ่นวาย , wongnai.com

#ไก่ย่างห้าดาว #ของอร่อย #รีวิวของกิน

Categories
รีวิวของกิน

โบโลน่าจากพืช Meat Zero อร่อยเคี้ยวเพลิน ปราศจากเนื้อสัตว์

อาหารมังสวิรัติ เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น แต่อาหารมังสวิรัติในประเทศไทยยังค่อนข้างเข้าถึงยาก และหากทำเองก็เป็นเรื่องที่เสียเวลา อีกทั้งวัตถุดิบในการทำยังมีราคาแพง  กว่าจะได้ของที่อร่อยเทียบเท่ากับอาหารทั่วไปก็ลำบาก ในรีวิวนี้ ผู้เขียนจึงขอนำเสนอ เมนูมังสวิรัติที่จะทำให้ชีวิตของคุณไม่น่าเบื่ออีกต่อไป อย่าง โบโลน่าจากพืช Meat Zero ที่รสชาติอร่อยไม่แพ้โบโลน่าที่ทำมาจากเนื้อสัตว์เลยทีเดียว

ความอร่อยของโบโลน่าจากพืช Meat Zero

โบโลน่าจากพืช Meat Zero ถือเป็นอาหารมังสวิรัติที่ทำออกมาได้ดีในรูปแบบของเนื้อสัตว์ และมีการจัดจำหน่ายให้เข้าถึงง่ายที่ 7-11 ทุกสาขา ราคาและรสชาติก็พอๆกับโบโลน่าแบบปกติทั่วไปที่ทำมาจากเนื้อสัตว์ แน่นอนว่าช่วงนี้กระแสการทานมังสวิรัติเพื่อลดการฆ่าสัตว์และเพื่อส่งเสริมสุขภาพกำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลก  เจ้าสัวใหญ่อย่างซีพีจึงไม่พลาดที่จะผลิตโบโลน่าจากพืช Meat Zero เอาใจผู้บริโภค ด้วยประสบการณ์ผลิตสินค้าคุณภาพออกมาหลายปี ทำให้รสชาติของโบโลน่าจากพืช Meat Zero แทบจะไม่แตกต่างจากโบโลน่าปกติเลยด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าหากใครชอบกินโบโลน่าของซีพีก็คงจะคุ้นเคยกับรสชาติเค็มๆของผงชูรสกันดี บอกเลยว่าโบโลน่าจากพืช Meat Zero ก็ไม่ต่าง ระดับความเค็มยังคงเดิม เพิ่มเติมคือความคลีน คนที่ชอบก็จะชอบไปเลย แม้รสชาติและกลิ่นจะคล้ายคลึงกันพอสมควร แต่เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วมีความแตกต่างอย่างชัดเจน โดยโบโลน่าจากพืช Meat Zero เนื้อสัมผัสจะแอบคล้ายกับไข่ขาวผสมเจลาตินผสมโปตีนเกษตรที่ถูกบีบอัดเข้าด้วยกันเป็นเนื้อแน่นๆ ทำให้มีความเด้งสู้ฟันเหมือนเนื้อหมู กินได้เรื่อยๆเพลินๆ รู้ตัวอีกทีก็หมดเสียแล้ว ในส่วนของกลิ่นเมื่อกัดเข้าไปจะมีกลิ่นเต้าหู้โชยออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ถึงขั้นกินไม่ได้ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่อยากลองเปิดใจเริ่มต้นทานอาหารมังสวิรัติ เพราะทานง่ายและใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์มาก

สำหรับผู้เขียนรู้สึกชอบโบโลน่าจากพืช Meat Zero มากกว่า โบโลน่าแบบปกติ อาจเพราะสัมผัสได้ถึงความคลีน กินแล้วไม่คาวเท่าโบโลน่าแบบที่ทำมาจากเนื้อสัตว์ นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ยังมีความสวยงามเป็นสีเบจตัดเขียว ดูแล้วให้ความรู้สึกเป็นมังสวิรัติคลีนๆดี ราคาก็ไม่แพงมาก พอๆกับโบโลน่าทั่วไป แต่สารอาหารที่ได้กลับมา มีโปรตีนมากกว่าหลายเท่า ไม่มีโคเลสเตอรอล ดีต่อสุขภาพมากกว่า ทั้งยังนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ทำให้การทานอาหารเพื่อสุขภาพของคุณไม่จืดชืดอีกต่อไป โบโลน่าจากพืช Meat Zero จึงถือว่าเป็นของอร่อยที่คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์จริงๆ

เครดิตภาพ : meatzerobrand.com

#ของอร่อยต้องลอง #โบโลน่าจากพืช #รีวิวของกิน

Categories
รีวิวของกิน

รีวิวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Ghost Pepper ที่เผ็ดสุดในโลก

ในเวลานี้วัยรุ่นหลายคนกำลังจับตามองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Ghost Pepper ที่เผ็ดสุดในโลกอยู่มากมาย ไม่ใช่แค่ในเมืองไทยเท่านั้น แต่ทั่วโลกยังให้ความสนใจกับความเผ็ดของเจ้ามาม่าซาตานตัวนี้ที่หากใครได้รับประทานไปแล้วจะมีอาการคล้ายกับเจ้าเข้า ฮ่า ๆ นั่นก็เว่อร์ไป แต่มันเป็นเช่นนั้นจริงนะคะ เพราะความเผ็ดของมันเมื่อรับประทานไปเพียงแค่คำเดียวนักรีวิวบางคนก็ถึงกับต้องหานมขวดใหญ่มาดื่มเลย แม้แต่คนที่ได้ชื่อว่ารับประทานเผ็ดมากได้แบบสบาย ๆ ยังต้องคารวะ เราจึงเกิดความสงสัยว่ามันเป็นแค่อุปทานหมู่หรือเปล่า อะไรจะขนาดนั้น สุดท้ายเมื่อมันเข้า 7 – 11 ก็เลยตัดสินใจเสี่ยงไปซื้อมาเสียเลย จะจริงตามที่คนอื่นบอกไหมไปอ่านรีวิวกัน

รู้จักกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Ghost Pepper 

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Ghost Pepper เป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบแห้งรสไก่เผ็ดซึ่งเป็นบะหมี่ที่มีสไตล์ความเป็นเกาหลีแต่ผลิตในประเทศมาเลเซีย ลักษณะของกล่องจะเป็นสีดำสนิท มีรูปภาพประกอบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Ghost Pepper แบบใส่พริกสีแดงเถือกมากมายไฟลุกเป็นจุดเด่นเพื่อบอกว่ามันเป็นบะหมี่ที่เผ็ดมาก และยังคอนเฟิร์มที่ด้านหลังกล่องแบบย้ำ ๆ อีกว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี้เครื่องปรุงมีส่วนผสมหลักของพริก Ghost Pepper หรือที่คนไทยเราเรียกว่า “พริกผี(นรก)” ซึ่งเป็นพริกที่ได้รับการจัดอันดับแล้วว่ามีความเผ็ดอันดับ 7 ของโลก โดยระดับความเผ็ดอยู่ที่หนึ่งล้าน โอ้โห! ขนาดพริกเผ็ดอันดับ 7 ของโลกยังมีระดับเผ็ดถึงหนึ่งล้าน ไม่อยากจะคิดเลยว่าพริกที่เผ็ดอันดับ 1 จะมีกี่สิบล้านกัน ตายแน่ ๆ

ลักษณะของเส้นและเครื่องปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Ghost Pepper

ลักษณะของเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Ghost Pepper จะถูกทำออกมาเป็นสีดำมีกลิ่นหอมเหมือนขนมหน่อย ๆ ซึ่งเราก็ลองมาดูส่วนผสมพบว่ามีผงโกโก้ผสมอยู่ด้วย โอ้ว! ถ้าจะเด็ดตั้งแต่เส้น ส่วนเครื่องปรุงจะมีแค่ซอสที่มีส่วนผสมหลักของพริก Ghost Pepper อย่างเดียวเลย แค่เห็นสีแดงส้มเข้มข้นจากซองก็เริ่มกลัวแล้ว งือ ๆ

รสชาติความเผ็ดสุดพิศดารของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Ghost Pepper

เอาล่ะ หลังจากที่เราต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Ghost Pepper จนเส้นสุกและผสมซอสต่าง ๆ จนเข้ากันบวกกับนั่งทำใจประมาณเกือบหนึ่งนาทีแล้วก็ได้เวลาเชือดตัวเองแบบ ASMR ของอื่น ๆ เสียที ว่าแล้วคำแรกก็เข้าปากเรียบร้อย แบบรับประทานเข้าไปคำนึงไม่เยอะก่อน คือทุกคน! พอเรารับประทานเข้าไปแล้วความรู้สึกแรกมันเหมือนเผ็ดระดับปกติคล้ายมาม่าเกาหลีเลย แต่พอกลืนลงคอเข้าไปเท่านั้นแหละ เผ็ดปลายลิ้นแบบเหมือนมีใครจุดไฟไว้ในปากทั้งเผ็ดแสบทั้งร้อนจนต้องรีบไปหานมหาขนมในตู้เย็นมาหมดเลย แค่คำแรกยังเผ็ดมากขนาดนี้นะย้ำ! แต่ด้วยความเสียดายเราจึงรับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Ghost Pepper ต่อไปจนกระทั่ง 4 คำเท่านั้นล่ะหูอื้อไปชั่วขณะ น้ำตาน้ำมูกไหลหน้าแดงร้อนไปหมด สรุปคือไม่หมดจ้า ยกธงขาวจริงในเรื่องความเผ็ดที่สุดในโลก คารวะเลย เข้าใจความรู้สึกของนักรีวิวหลายคนที่เผ็ดจนต้องทุบโต๊ะปัง ๆ แล้ว

คำเตือน มันเผ็ดในระดับที่หากใครเป็นโรคหัวใจไม่ควรรับประทานเลย แม้แต่คนทั่วไปหากคิดจะรับประทานควรหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ด้วย เพราะหากรับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Ghost Pepper คนเดียวคุณอาจต้องเรียกรถพยาบาลมาได้ เตือนแล้วนะ

# Ghost Pepper #อร่อยเด็ดด #รีวิวของกิน

Categories
รีวิวของกิน

ไข่ ทำอะไรมากกว่าที่คิด

ไข่ไก่นั้นอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะโปรตีน ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์มาก ช่วยให้ร่างกายเจิรญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังสามารถนำไปประกอบอาหารได้มากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นดิบหรือสุก ก็ยังคงความอร่อยไว้ได้ทั้งหมด นอกจากทอดกับต้มแล้วไข่ยังสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายรูปแบบมาก จะมีอะไรบ้างไปดูกัน 

เมนูไข่พิสดาร

  1. ไข่พะโล้ต้มโค้ก

อาจจะเป็นเมนูที่แปลกไปสักหน่อยในการใส่เครื่องดื่มอย่างโค้กเข้าไปด้วย แต่น้ำอัดลมอย่างโค้กนี่แหละจะทำให้หมูนั้นมีความนุ่มและมีรสชาติกลมกล่อมขึ้น 

วัตถุดิบ หมูสามชั้น/ โค้กซีโร่/  น้ำมันหอย/ ซีอิ๊วขาว/ เกลือ/ ผงพะโล้/  กระเทียมปอกเปลือก / พริกไทย/ รากผักชี /  น้ำมันพืช /  ซีอิ๊วดำ/ น้ำตาลปี๊บ / น้ำเปล่า/  ไข่ต้ม

วิธีทำ 

  • ล้างหมูและหั่นเป็นชิ้นตามต้องการ 
  • หั่นรากผักชีให้เป็นชิ้นเล็ก จากนั้นหั่นกระเทียม และโขลก รากผักชี กระเทียม เกลือและพริกไทยให้เข้ากัน 
  • ใส่น้ำมันพืชลงในหม้อ ใส่เครื่องเทศที่โขลกแล้วลงไป
  • ใส่เนื้อหมูลงไปและผัดให้เข้ากัน 
  • ใส่น้ำตาลปี๊บ
  • ใส่เครื่องปรุงที่เหลือลงไปให้หมด 
  • ผัดให้เข้ากัน และเติมโค้กซีโร่ลงไปในหม้อ
  • รอให้หมูพอสุก จากนั้นลดความแรงของไฟลง 
  • เคี่ยวจนเสร็จ และใส่ไข่ต้มลงไป
  • รอจนไข่เปลี่ยนสี 
  • พร้อมรับประทาน 
  1. ไข่กรอบชีสลาวา 

เป็นเมนูที่มีกลิ่นอายของความเป็นชาติตะวันตก เนื่องจากมีส่วนผสมอย่างชีสเข้ามาด้วย ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม พร้อมทั้งชีสที่ยืด กินเพลินๆ ไปเลย

วัตถุดิบ ไข่ต้ม / ชีส/ น้ำมันพืช/ แป้งทอดกรอบ 

วิธีทำ 

– ต้มไข่ให้สุก จากนั้นนำมาปอกเปลือก

-ตั้งกระทะให้น้ำมันเดือด

-จากนั้นนำไข่จุ่มนำเปล่าและนำไปคลุกกับชีสที่เตรียมไว้ 

-นำไข่ลงทอด พอให้เหลือง 

– พร้อมรับประทาน 

  1. ลาบไข่ต้ม 

วัตถุดิบ ไข่ต้ม / หอมแดงซอย/ หมูสับ / พริกป่น/ ข้าวคั่ว / ผักชีฝรั่ง

วิธีทำ 

  • นำหมูสับลงไปต้มกับน้ำพอขลุกขลิก
  • จากนั้นใส่เครื่องลาบ ได้แก่ ข้าวคั่ว พริกป่น หอมแดง และผักชีฝรั่งลงไป คลุกให้เข้ากัน
  • แกะไข่ต้มและหั่นครึ่ง 
  • จากนั้นนำไข่ต้มมาเรียงใส่จาน และราดด้วยลาบหมูด้านบน
  • พร้อมรับประทาน

ไข่ไก่นั้นเป็นเมนูติดบ้านที่ทั้งมีราคาถูกและให้คุณประโยชน์ทางอาหารได้มาก ดังนั้นการหาเมนูมาพลิกแพงวัตถุดิบให้เมนูไข่ไก่ไม่น่าเบื่อนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีและประหยัดมาทีเดียว ที่สำคัญคืออร่อยด้วย

เครดิตภาพ : cpbrandsite hd bloggang

#รีวิวของกิน #ไข่ไก่ #เมนูจากไข่

Categories
รีวิวของกิน

นูเทลล่า ช็อกโกแลตทาขนมปังที่อร่อยที่สุดในโลก

นูเทลล่า เป็นช็อกโกแลตทาขนมปังยอดฮิตที่ได้รับความนิยมระดับโลก โดยจุดเริ่มต้นของนูเทลล่านั้น มาจากสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งในช่วงนั้นช็อกโกแลตแพงมาก จึงมีคนคิดค้นช็อกโกแลตผสมกับถั่วเฮเซลนัทในปริมาณมาก เกิดเป็นนูเทลล่าในปัจจุบัน ด้วยรสชาติความอร่อยและกลิ่นหอมของถั่วเฮเซลนัทที่แตกต่างจากช็อกโกแลตยี่ห้ออื่นอย่างสิ้นเชิง ทำให้นูเทลล่ายังคงเป็นช็อกโกแลตทาขนมปังในดวงใจของใครหลายคน

ความอร่อยของนูเทลล่า

นูเทลล่า มีสโลแกนว่า ความสุขที่ทาลงบนแผ่นขนมปัง ซึ่งต้องบอกเลยว่า นูเทลล่ากับขนมปังนั้นเป็นอะไรที่เข้ากันได้ดีมากจริงๆ โดยนูเทลล่าไซด์เล็กสุดราคาจะอยู่ที่ 98 บาท สามารถกินได้นานหลายวัน บนบรรจุภัณฑ์รับประกันว่า ปาดลงบนแผ่นขนมปังได้ถึง 13 ครั้ง จากที่ผู้เขียนลองทานดูแล้วก็พบว่า สามารถทานนูเทลล่ากับขนมปังได้ 2-3 แถวเลย นอกจากขนมปังแล้วก็ยังมีเมนูอื่นๆที่เข้ากับนูเทลล่าได้ดีเช่น ผลไม้ต่างๆ เป็นฟองดูช็อกโกแลตก็อร่อย โดยรสชาติของนูเทลล่านั้น เชื่อว่าแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ โดยต้องสังเกตที่ขวดนูเทลล่าว่า ผลิตมาจากที่ไหน อาจเพราะมีปัจจัยต่างๆที่ส่งผลให้ช็อกโกแลตของนูเทลล่าแตกต่างกันไปแต่ละพื้นที่ ถึงอย่างนั้นผู้เขียนก็คิดว่า ไม่ว่าจะเป็นของประเทศไหนนูเทลล่าก็มีรสชาติที่อร่อยตามแบบฉบับของตัวเอง โดยจะมีรสชาติหอมหวานเข้มข้นของช็อกโกแลตชั้นดีและกลิ่นหอมมันของถั่วเฮเซลนัทเข้มข้น โดยนูเทลล่าหนึ่งกระปุกนั้น จะมีโปรตีนจากเฮเซลนัทจำนวนมากซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ในขณะเดียวกันด้วยความที่เป็นช็อกโกแลตหวานๆ จึงมีน้ำตาลสูง ไม่เหมาะที่จะรับประทานเพื่อหวังคุณประโยชน์จากเฮเซลนัท ในส่วนของวิธีการเก็บรักษานูเทลล่านั้น ให้ตั้งไว้ในอุณหภูมิห้อง ไม่ควรนำไปแช่ตู้เย็น เพราะอาจทำให้นูเทลล่าแข็งปาดยาก หากใครเผลอนำนูเทลล่าไปแช่เย็นให้นำมาตั้งทิ้งไว้นอกตู้เย็นก็เพียงพอแล้ว ปัจจุบันนูเทลล่ายังได้รับความนิยมมากจนถึงขั้นมีวันนูเทลล่าเดย์คือวันที่ 5 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันที่ชาวเน็ตทุกคนมาร่วมกันคิดค้นเมนูที่ทำจากนูเทลล่า นอกจากนี้ยังเคยมีเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ที่คลั่งไคล้นูเทลล่าเล่าว่า มีห้างแห่งหนึ่งจัดส่วนลดนูเทลล่า 70% ทำให้มีคนจำนวนมากบุกเข้าไปเพื่อแย่งชิงนูเทลล่ากัน เกิดความวุ่นวายจนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาควบคุมเลยทีเดียว

สำหรับใครที่สนใจอยากลองชิมนูเทลล่าก็สามารถหาซื้อได้แล้วที่เซเว่น-อีเลฟเว่นหรือห้างสรรพสินค้าทุกสาขา ซึ่งจะมีให้เลือกด้วยกันหลากหลายขนาด บอกเลยว่าคุ้มแน่นอน เพราะสามารถนำไปประยุกต์ทำได้หลากหลายเมนู อีกทั้งยังอร่อยและมีประโยชน์สมคำร่ำลือ

เครดิตภาพ : tidhoo.co, fitterminal.com

#นูเทล่า #ช้อคโกแลตทาขนมปัง #รีวิวของกิน

Categories
รีวิวของกิน

ขนมปังครัวซ็องความอร่อยในรูปแบบพระจันทร์เสี้ยว

เมื่อพูดถึงขนมที่มีรูปร่างเป็นเอกลักษณ์  จดจำง่าย และชื่อคุ้นหู คงหนีไม่พ้นขนมปังครัวซ็อง(Croissant )ขนมปังรูปทรงคล้ายพระจันทร์เสี้ยว ที่แม้ภายในจะไม่มีไส้อะไร แต่ก็มีความอร่อยในแบบฉบับของตัวเอง ได้รสชาติของขนมปังกรอบนุ่มจากแป้งบางเป็นชั้นๆ หอมกลิ่นเนย อย่างไรก็ตาม ขนมปังครัวซ็อง ไม่ได้มีต้นกำเนิดจริงๆมาจากประเทศฝรั่งเศสแบบชื่อของมัน แต่จะถือกำเนิดขึ้นที่ใดนั้น ต้องลองไปติดตามกัน


ที่มาของขนมปังครัวซ็อง

จากข้อมูลที่ศึกษานั้น พบว่าขนมปังครัวซ็องได้รับอิทธิพลจากขนมปังของประเทศออสเตรีย ที่แต่เดิมมีชื่อว่า “kipferl” หรือ “คิปเฟล” โดยมีความหมายว่า พระจันทร์เสี้ยว ในภาษาเยอรมัน เหตุที่ตั้งชื่อนี้เพราะรูปร่างของขนมปังที่คล้ายกันพระจันทร์เสี้ยวนั่นเอง ซึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดขนมปังรูปลักษณ์แบบนี้ ต้องเล่าย้อนไปในปี ค.ศ.1683 ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียสามารถชนะประเทศเติร์กในสงครามได้ ซึ่งส่วนหนึ่งที่ทำให้ได้รับชัยชนะนั้น เป็นเพราะช่างขนมปังที่ทำงานอยู่ใต้ฐานทัพเห็นความผิดปกติบางอย่าง จึงไปแจ้งให้กองทัพทราบ โดยสิ่งผิดปกตินั้น คือ ทหารของประเทศเติร์กที่กำลังลอบขุดดินหวังโจมตีจากด้านล่าง ชัยชนะครั้งนั้นเป็นแรงบันดาลใจให้ช่างทำขนมปังออกแบบสร้างขนมปังที่มีรูปร่างเป็นพระจันทร์เสี้ยว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์หนึ่งในธงประเทศเติร์กขึ้น จนได้รับความนิยมในประเทศต่อมาเรื่อยๆ แต่คิปเฟลก็ยังไม่ใช่ครัวซ็องที่เรารู้จัก เพราะคิปเฟลจะมีลักษณะเป็นแป้งด้านในหนาๆตันๆ ยังไม่มีฟองอากาศในแป้ง ซึ่งขนมปังครัวซ็องเกิดมาจากความคิดถึงบ้านเกิดของ “พระนางมารี อ็องตัวแน็ต” ในขณะที่เป็นราชินีประเทศฝรั่งเศส เธอมาจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย จึงได้สั่งให้ช่างทำขนมปังทำคิปเฟลให้เธอทาน เมื่อขนมปังชนิดนี้เข้ามาอยู่ในประเทศฝรั่งเศสก็ได้ผ่านการดัดแปลงมาเรื่อยๆ เกิดเป็นขนมปังที่แป้งบาง กรอบนอกนุ่มใน ทานง่าย จนเป็นครัวซ็องในปัจจุบัน

สำหรับชาวฝรั่งเศสแล้วการกินครัวซ็องมื้อเช้านั้น ถือว่าเป็นเรื่องปกติ คล้ายกับการกินขนมปัง ไข่ดาว กับเบคอน หรือข้าวสวยกับเครื่องเคียง จึงเรียกได้ว่า เราสามารถเห็นเศษแป้งครัวซ็องบนเสื้อของคนฝรั่งเศสได้ทั่วไป สำหรับคนไทยนั้น ก็หาทานขนมปังครัวซ็องของแท้ตามต้นฉบับฝรั่งเศสได้ยาก ส่วนหนึ่งเกิดจากแป้งแบบเฉพาะที่หาได้จากประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่สามารถหาทานขนมปังครัวซ็องต้นตำรับมาลองชิมได้เลย ซึ่งผู้เขียนขอแนะนำตัวชี้วัดว่า อะไรบ้างที่ครัวซ็องแท้ๆควรจะมี เริ่มจากแป้งที่กรอบแตกได้เมื่อบีบมัน เมื่อกดตัวขนมปังแล้วจะต้องคืนตัวได้ มีกลิ่นหอมเนย ภายในเต็มไปด้วยฟองอากาศ กรอบนอก นุ่มใน

เครดิตภาพ : guide.michelin.com, lemmemore.com

#ครัวซ็อง #เรื่องเล่าของกิน #รีวิของกิน

Categories
รีวิวของกิน

ขนมจีบเจดดราก้อน ของอร่อยต้องลอง

  ขนมจีบเป็นอาหารยอดนิยมจากประเทศจีนที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดของไทยอย่างแพร่หลาย ซึ่งแต่ละเจ้าก็มีรสชาติและหน้าตาแตกต่างกัน สำหรับใครที่ชอบกินขนมจีบมากคงรู้ดีว่า ขนมจีบร้านอร่อยมักจะมีราคาแพง แถมยังได้ไม่จุใจเท่าทำเอง แต่สำหรับใครที่อยากกินขนมจีบเนื้อแน่นๆ อร่อยได้สบายกระเป๋า รีวิวนี้ ผู้เขียนขอแนะนำอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับผู้ที่ชอบกินขนมจีบอย่าง ‘ขนมจีบเจดดราก้อน

ความอร่อยของขนมจีบเจดดราก้อน

ขนมจีบเจดดราก้อน เป็นอาหารแช่แข็งที่ถูกวางขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป โดยแพคเก็จของเจ้าตัวขนมจีบนี้จะเป็นซองพลาสติกสีแดง เขียนชื่อยี่ห้อชัดเจนว่า เจดดราก้อน มีรูปมังกรตัวสีเขียวเด่นชัด ซึ่งก็จะมีขนมจีบหลากหลายแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น ขนมจีบหมูที่มีแป้งเกี๊ยวสีเขียวและเนื้อหมูแน่นๆแปะไข่เค็มแดงไว้ด้านบนแบบจุใจ หรือขนมจีบกุ้งที่มีรสชาติอร่อยพอๆกับขนมจีบกุ้งเซเว่น ทั้งหอมหวาน เนื้อแน่น ตัวหมูที่ใช้ห่อขนมจีบมีหัวหอมสับผสมอยู่ให้ความรู้สึกตัดเลี่ยนเวลาเคี้ยว แถมรสชาติก็ไม่เค็มมาก หวานหอมกลมกล่อม พิเศษตรงที่ด้านในมีกุ้งเด้งตัวใหญ่มาก ถือว่าให้เยอะพอสมควรไม่ใช่แค่เศษกุ้งหรือการแต่งกินกุ้ง และสุดท้ายคือรสปู ได้รสสัมผัสและกลิ่นของปูไปเต็มๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบกินขนมจีบปูเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สำหรับแป้งเกี๊ยวนั้นก็ทำออกมาได้ดีทีเดียว เพราะเมื่อนำไปเวฟก็จะนุ่มนิ่มหอมอร่อยแต่ไม่เละ หรือถ้าใครชอบนำไปทอดก็จะได้เกี๊ยวที่มีความกรอบนอกนุ่มใน นำไปต้มทำเป็นสุกี้ตัวเกี๊ยวก็จะพองโตชิ้นใหญ่ขึ้นดูดซับน้ำสุกี้หอมอร่อย จะนำไปใส่หม้อทอดไร้น้ำมันหรือนำไปนึ่งให้นุ่มหอมอร่อยก็ได้เช่นกัน นำไปจิ้มกับซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วหวาน จิ๊กโฉ่ว โรยด้วยหอมหรือกระเทียมเจียว ทานคู่กับผักสลัดยิ่งอร่อย  สำหรับใครที่ซื้อขนมจีบเจดดราก้อนมาขอเตือนว่า ให้แกะออกจากถุงแล้วค่อยนำไปประกอบอาหาร เท่าที่จะกินในแต่ละมื้อ จากนั้นก็ให้นำส่วนที่เหลือไปใส่ช่องฟรีซเหมือนเดิม จะได้เก็บไว้กินนานๆไม่เน่าเสีย ห้ามเวฟทั้งถุงเด็ดขาด เพราะถุงไม่ได้ออกแบบมาให้เวฟได้ 

สำหรับใครที่สนใจขนมจีบเจดดราก้อน ถุงเล็ก 15 ชิ้น ราคาอยู่ที่ถุงละ 97 บาท ถุงใหญ่ 30 ชิ้น ราคา 169 บาท รับประทานได้หลายมื้อ แต่ละชิ้นแน่นเต็มคำ เรียกได้ว่ากินมื้อละ 5-6 ชิ้นก็อิ่มแล้ว เรียกได้ว่าเป็นอาหารที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ทำได้หลากหลายเมนูและควรจะมีติดบ้านเอาไว้

เครดิตภาพ : bangkokbiznews.com, atthakorn.com

#ขนมจีบดราก้อน #อร่อยต้องลอง #รีวิวของกิน