น้ำมันหอมระเหย เกิดขึ้นมาจากการที่พืชผลิตเองตามธรรมชาติ ซึ่งจะมีลักษณะเป็นของเหลว ไม่เหนียว มีกลิ่นหอมระเหยได้ง่าย เมื่อได้รับความร้อนอนุภาคเล็ก ๆ ของน้ำมันจะระเหยออกมามีกลิ่นหอมล่อแมลงให้มาผสมเกสร ซึ่งคนเราได้สกัดและนำมาใช้อย่างยาวนานหลายพันปีแล้ว เพื่อใช้ประโยชน์ในการช่วยฟื้นฟูร่างกาย จิตใจ และด้านอารมณ์ความรู้สึก รวมไปถึงการดูแลด้านความสวยความงาม หรือใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้ ทั้งนี้สามารถใช้งานหลายแบบ โดยการสูดดม หรือใช้การกระจายกลิ่น รวมถึงหยดลงในอ่างอาบน้ำเพิ่มความผ่อนคลายได้เช่นกัน แต่วิธีการสกัดค่อนข้างยุ่งยากและได้ปริมาณน้อยทำให้ Essential Oil บริสุทธิ์ค่อนข้างจะมีราคาสูงพอสมควร มาดูกันว่าแต่ละกลิ่นให้ประโยชน์อะไรบ้าง มาเลือกใช้ตามความเหมาะสมกัน
น้ำมันหอมระเหย แต่ละกลิ่นมีประโยชน์อะไรบ้าง
1. กลิ่นวาเวนเดอร์ กลิ่นหอมละมุนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น บรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน นอกจากนี้ยังนำมาใช้ทาผิวกายเพื่อลดอาการระคายเคือง ฆ่าเชื้อแผลสด ช่วยสมานแผลที่เกิดจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวกได้อีกด้วย
2. กลิ่นซีดาร์วูด กลิ่นธรรมชาติแบบไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะสำหรับสูดดมเพื่อเพิ่มความหนักแน่นของจิตใจ ลดความฟุ้งซ่าน คลายเครียด และอาการซึมเศร้า นอกจากนี้น้ำมันชนิดนี้ยังช่วยบำรุงหนังศีรษะแห้ง กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ป้องกันรังแค และช่วยปรับสมดุลไม่ให้ผิวของเรามันมากจนเกินไป
3. กลิ่นเลมอน หรือกลิ่นมะนาว มีความหอมสดชื่น บรรเทาความเหนื่อยล้า ลดความหดหู่ของจิตใจ คลายเครียด เพิ่มสมาธิและการจดจำ นอกจากนี้ยังช่วยด้านระบบการหายใจ เพิ่มประสิทธิภาพของระบบย่อยอาหารของร่างกายด้วย
4. กลิ่นเปปเปอร์มิ้น กลิ่นหอมหวานให้ความเย็นสดชื่นกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้จมูกโล่งจากการเป็นหวัด ทำให้ตื่นตัว สมองทำงานได้ดี ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ และช่วยบรรเทาอาการเสียดท้องจากอาหารไม่ย่อย
5. กลิ่นตะไคร้ สมุนไพรใกล้ตัวยอดนิยมที่นำมาสกัดเป็น Essential Oil เนื่องจากหาได้ง่ายมีคุณประโยชน์มากมาย กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ช่วยบรรเทาอาการหดหู่ของจิตใจ คลายเครียด เพิ่มสมาธิ ลดการปวดศีรษะ ใช้คลายความตึงของข้อและกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวกระชับและปรับสมดุลผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น และไล่ยุงได้เป็นอย่างดี
6. กลิ่นโรสแมรี่ เป็นที่นิยมอย่างมากในแถบยุโรป เพราะเป็นพืชในตระกูลเดียวกันกับลาเวนเดอร์และเซจ มีสรรพคุณในการช่วยกระตุ้นให้เกิดความหิว สร้างสมาธิ บรรเทาอาการปวดท้อง กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้
น้ำมันหอมระเหย มีดีมากกว่าแค่ให้ความหอม
นอกจากกลิ่นหอมที่ให้ความรู้สึกและอารมณ์ดีขึ้นจากอาการต่าง ๆ แล้ว Essential Oil ยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ เช่น เมื่อเราเกิดรอยช้ำตามร่างกาย ใช้น้ำมันอาร์นิกา ที่มีสรรพคุณในการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ลดอาการบวมและอักเสบได้ หรือแม้แต่อยากปรับผิวของเราให้สวยใส ให้ใช้น้ำมันลาเวนเดอร์ โจโจบา เจอเรเนียม และโรสฮิป หยดลงบนน้ำผึ้งผสมให้เข้ากันแล้วทาที่ผิวทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ก็จะช่วยให้ผิวของเราเนียนนุ่ม น่าสัมผัส นอกจากนี้น้ำมันเปปเปอร์มินต์ยังช่วยผ่อนคลายเท้าได้ โดยนำมาหยดลงบนน้ำสำหรับแช่เท้า จากนั้นใส่เกลือลงไป แล้วนำเท้าลงไปแช่รับรองว่าจะรู้สึกผ่อนคลาย สบายเท้าอย่างแน่นอน
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ Essential Oil ที่มีผู้นิยมใช้เท่านั้น ยังมีอีกมากมายหลายชนิด เพราะนอกจากน้ำมันหอมระเหยจะมีสารประกอบที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและบำบัดร่างกายของเราแล้ว กลิ่นหอมก็ช่วยให้อารมณ์ความรู้สึกของเราดีขึ้นจากความเครียดและอื่น ๆ ให้ดีขึ้น นอกจากนี้ผู้ผลิตครีมบำรุงผิวแบรนด์ต่าง ๆ ยังนิยมนำมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ แทนการใช้น้ำหอมสังเคราะห์ เพื่อให้ความอ่อนโยนและมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้อีกด้วย
เครดิตภาพ : madamfigarothai.com / naturalandorganic.com / vogue.co.th
Youtube :
Essential Oil ใน Set มีอะไรบ้าง?
เรียนทำน้ำหอมของตัวเองที่ Qraft by Aqua กับ Essential Oil Perfume Workshop กันค่าา
#Essential Oil #น้ำมันหอมระเหย #คุณสมบัติ Essential Oil